การปฏิวัติอิสลามของอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) แยกอิสลามมุฮัมมัดจากอิสลามเทียมเท็จ

343

ไม่มีมุสลิมคนใดปฏิเสธได้ว่าการปฏิวัติของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) นั้น ล้วนได้รับอิทธิพลมาจากการปฏิวัติอิสลามของท่านอิมามฮูเซน (อ) อย่างสมบูรณ์แบบในทุกๆ มิติ เป้าหมาย ผลลัพธ์ สโลแกน นักต่อสู้ และผู้นำการปฏิวัติ ฯลฯ ดั่งคำขวัญของประชาติอิหร่านที่ได้ประกาศว่า “ขบวนการของเราคือขบวนการของอิมามฮูเซน (อ) และผู้นำของเราคือ อิมามโคมัยนี (ร.ฮ)” สรุปคือ การปฏิวัติของท่านอิมามฮูเซน (อ) คือการรักษาและการชุบชีวิตอิสลามของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) และการปฏิวัติของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) คือการสานต่อภารกิจของการปฏิวัติอิมามฮูเซน (อ)

สถานภาพของอิสลามในยุคของอิมามฮูเซน (อ) “ความเสี่ยมโทรมของอุดมการณ์ หลักความเชื่ออิสลาม”

การประกาศสถาปนาระบอบอิมามัตอย่างเป็นทางการ ณ ฆอดีรคุม ของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) โดยการแต่งตั้งท่านอิมามอะลี (อ) เป็นผู้สืบทอดอำนาจวิลายัตภายหลังจากท่านต่อหน้าประชาชาติอิสลามเรือนแสนมีบันทึกอยู่ในประวัติศาสตร์อิสลามอย่างชัดเจน ทว่าภายหลังจากการจากไปของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ไม่กี่นาที ระบอบอิมามัตดังกล่าวถูกยึดอำนาจ และมีการสถาปนาระบอบคอลีฟะฮฺขึ้นมาแทนที่ทันที ซึ่งภายในเวลาไม่กี่ปีอิสลามที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) นำมาเสนอแก่มวลมนุษยชาติ ถูกบิดเบือนกลายเป็นอิสลามของชนเผ่าหนึ่งในที่สุด ลูกหลานของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) กลายเป็นบุคคลแปลกหน้าสำหรับประชาชาติอิสลาม ในขณะที่เมื่อครั้งศาสดา (ศ) มีชีวิตอยู่นั้น ท่านได้แสดงและกล่าวถึงความประเสริฐต่างๆ ของท่านอิมามอะลี (อ), ท่านหญิงฟาติมะฮฺ (อ), ท่านอิมามฮาซัน (อ), ท่านอิมามฮูเซน (อ) ไว้อย่างชัดเจน

บุคลากรที่สำคัญในยุคศาสดามุฮัมมัด (ศ) อาทิเช่น ท่านซัลมาน ฟาร์ซี, อัมมาร ยาซิร, อาบูซัรฆอฟฟารีย์ และคนอื่นๆ ไม่มีสิทธิมีเสียงในระบอบการปกครองระบอบคอลีฟะฮฺ ในทางกลับกันหลายคนที่ไม่เคยมีประวัติการต่อสู้ในยุคของท่านศาสด (ศ) กลับได้รับตำแหน่งทางการเมืองกันอย่างถ้วนหน้า มีการปลอมแปลงฮาดีษ (รายงาน) ต่างๆ อย่างมากมาย ซึ่งในตำราประวัติศาสตร์อิสลามมีหมวด “ฮาดิษอิสรออีลียะฮฺ” ปรากฏอย่างชัดเจน หลักความเชื่อ บทบัญญัติต่างๆ ของพระองค์ที่ท่านศาสดา (ศ) ได้เผยแพร่เริ่มปิดทำการ สิ่งที่ท่านศาสดา (อ) มีบัญญัติอนุญาต ถูกทำให้เป็นสิ่งต้องห้าม แบบฉบับต่างๆ ที่ไม่เคยมีในยุคท่านศาสดา (ศ) มีการปฏิบัติกันอย่างแพร่หลาย ในหลายๆเรื่อง ฯลฯ

สถานการณ์ในเวลานั้นชี้ให้เห็นว่า ประชาชาติอิสลามในยุคหลังการจากไปของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) เข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง อิสลามที่แท้จริงถูกบิดเบือน และอิสลามเทียมเท็จถูกนำมาแทนที่ ประชาชาติอิสลามรุ่นใหม่ที่ถือกำเนิดมาถูกซึมซับ เติบโตขึ้นด้วยอิสลามเทียมเท็จ ส่งผลให้อิสลามที่แท้จริงของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ไม่หลงเหลืออยู่ในหมู่ประชาชาติอิลามอีกต่อไป ในสถานการณ์เช่นนั้นการปลุกจิตวิญญาณของประชาชาติอิสลามให้ตื่นขึ้น การชุบชีวิตอิสลามที่แท้จริงให้ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้งจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอิมามฮูเซน (อ) หลานของศาสดามุฮัมมัด (ศ) อิมามฮูเซน (อ) ได้กล่าวเอาไว้อย่างชัดเจนในเรื่องนี้ว่า “การลุกขึ้นต่อสู้ของฉันในครั้งนี้ ก็เพื่อปลุกจิตวิญญาณประชาชาติอิสลาม และฟื้นคืนชีพแบบฉบับของท่านตา (ศาสดามุฮัมมัด) ของฉันให้มีชีวิตอีกครั้งเท่านั้น”

สถานภาพอิสลามในยุคของอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) “ความเสี่ยมโทรมของอุดมการณ์ หลักความเชื่ออิสลาม”

ก่อนการปฏิวัติอิสลามของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) ประชาชาติอิหร่านที่เรียกตัวเองว่ามุสลิมใช้ชีวิตอยู่ภายใต้การปกครองของผู้นำชาฮฺ อิสลามที่พวกเขานับถือกลายเป็นเพียงเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ศาสนาถูกแยกออกจากการเมือง สังคม และวัฒนธรรมอย่างสมบูรณ์แบบ ศาสนาถูกนำไปวางไว้ในมัสยิด เป็นแค่พิธีกรรมส่วนบุคคล และเป็นเพียงสื่อหาผลประโยชน์ของผู้ปกครองเท่านั้น และเมื่อมองออกไปในนานาประเทศอิสลาม ทุกประเทศก็กำลังตกอยู่ในสภาพเดียวกัน โลกตะวันตกพยายามนำเสนอศาสนาแยกออกจากการเมืองการปกครอง และสังคม อิสลามแบบฉบับของโลกตะวันตกกำลังกลืนอิสลามแบบฉบับของศาสดามุฮัมมัด (ศ) เกือบสมบูรณ์แบบแล้ว ส่งผลให้อิสลามที่แท้จริงของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ไม่หลงเหลืออยู่ในหมู่ประชาชาติอิสลามอีกต่อไป

ในสถานการณ์เช่นนั้นการปลุกจิตวิญญาณของประชาชาติอิสลามให้ตื่นขึ้น การชุบชีวิตอิสลามที่แท้จริงให้ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้งจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) ทายาททางสายเลือดและทายาททางอุดมการณ์ของศาสดามุฮัมมัด (ศ) อิมามโคมัยนี (ร.ฮ) ได้กล่าวว่า “ทั้งหมดคือแผนการร้ายของชัยฏอนมารร้าย ในยุคหนึ่งมีบะนีอุมัยยะฮฺเป็นผู้เล่น และในอีกยุคมีบะนีอับบาสเป็นผู้เล่น และหลังจากนั้นไม่ว่าชนกลุ่มใดที่เป็นทายาททางอุดมการณ์ก็จะรับลูกเล่นกันต่อไป ในยุคนี้มีโลกตะวันตกและประเทศอิสลามบางประเทศเป็นผู้เล่น ในสถานการณ์เช่นนี้ การเห็นแก่ตัว การไม่ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อพระองค์ จะนำเราเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้งอย่างแน่นอน อิสลามอเมริกันได้ปิดล้อมเรา และแซกซึมเข้าไปในนานาประเทศอิสลามเรียบร้อยแล้ว”

ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) ได้นำเสนออิสลามศาสดามุฮัมมัด (ศ) แก่ประชาชาติอิสลามทั่วโลก อิสลามที่ไม่ถูกแยกออกจากการเมืองการปกครอง อิสลามที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในทุกแง่มุม นอกจากนี้ความเสี่ยมโทรมด้านการเมืองการปกครอง ทางด้านจิตวิญญาณ ก็มีอย่างมากมายเช่นเดียวกัน

วีธีการที่ดีที่สุดสำหรับอิมามฮูเซน (อ) และอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) ในวันนั้นที่เหมือนกัน ก็คือ … جادلهم بالتی هی احسن

1. ปลุกจิตวิญญาณอุดมการณ์อิสลาม และจัดระบบมุมมองในเรื่องของศาสนาแก่ประชาชาติอิสลาม “ความเสี่ยมโทรมทางด้านอุดมการณ์อิสลามของประชาชาติมุสลิมในยุคของอิมามฮูเซน (อ) และยุคของอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) อยู่ในสภาพเดียวกัน ประชาชาติอิสลามไม่เห็นคุณค่าของอิสลาม และถือว่าอิสลามคือเรื่องของส่วนบุคคล และตกอยู่ภายใต้การปกครองระบอบสนตะพายที่มีผู้ปกครองเป็นผู้จูงจมูก อิมามฮูเซน (อ) และอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) จึงลุกขึ้นปลุกจิตวิญญาณอุดมการณ์อิสลาม นำเสนออิสลามที่แท้จริงของศาสดามุฮัมมัด (ศ) و اِنَّما خَرَجتُ لِطَلَبِ الإصلاحِ فِی امّة جدّی أُرِیدُ أَن آمُر بِالمَعرُوفِ وَ أَنهی عَنِ المُنكَرِ การส่งเสริมการทำความดี และยับยั้งการทำความชั่ว คือเป้าหมายของการปฏิวัติในครั้งนี้เช่นกัน ที่มีเป็นภารกิจของมวลมุสลิมทุกคน อิมามฮูเซน (อ) ได้เปิดโปงความชั่วของบะนีอุมัยยะฮฺ อิสลามเทียมเท็จของอะบูซุฟยาน อิมามโคมัยนี (ร.ฮ) ได้กล่าวว่า “ภารกิจของพวกเรา คือทำลายสิ่งที่แปลกปลอมที่เข้ามาในอิสลามโดยศัตรูอิสลาม”

2- ไม่อยู่ภายใต้การปกครองของผู้ปกครองเผด็จการ ผู้ปกครองที่กดขี่

เป้าหมายการปฏิวัติของท่านอิมามฮูเซน (อ)และของอิมามโคมัยนี (ร.ฮ)

1-การแยกอิสลามมุฮัมมัด ออกจากอิสลามอะบูซุฟยาน – การแยกอิสลามมุฮัมมัด ออกจากอิสลามอเมริกัน – ยะซีดขึ้นรับตำแหน่งคอลีฟะฮฺอิสลาม เขานำเสนอแบบฉบับอิสลามอะบูซุฟยานในนามอิสลามที่แท้จริงของศาสดามุฮัมมัด (ศ) มีเป้าหมายเพื่อทำลายล้างอิสลามที่แท้จริง การอัมร์บิลมะอฺรูฟ วะนาฮีอะนิลมุนกัร ปิดตาย บรรดาผู้รู้ได้ปลอมแปลงฮาดีษเพื่อเอื้อผลประโยชน์ให้กับยะซีด เงินบัยตุลมานถูกใช้จ่ายไปในหนทางที่ไม่ถูกต้อง การทำความชั่วในสังคมเป็นที่เปิดเผยอย่างไม่มียางอาย – ชาฮฺอิหร่านเป็นผู้นำประเทศอิหร่าน เขาได้นำเสนอแบบฉบับอิสลามอเมริกันในนามอิสลามที่แท้จริงของศาสดามุฮัมมัด (ศ) มีเป้าหมายเพื่อทำลายล้างอิสลามที่แท้จริง ประชาชาติอิหร่านไม่สามารถปฏิบัติอัมบิลมะอฺรูฟ วานะฮีย์อะนิลมุนกัร บรรดานักการศาสนาในราชสำนักของชาฮฺ ก็มีการนำเสนอวิชาการที่เอื้อผลประโยชน์ให้กับชาฮฺ การบริหารประเทศตกอยู่ภายใต้การควบคุมของต่างชาติ สถานที่ทำความชั่วเกิดขึ้นมากมายในประเทศ การดื่มสุรา ผิดประเวณี มีการกระทำอย่างปกติธรรมดาโดยไม่มีใครสามารขัดขวางได้

2- การสร้างความกล้าหาญให้เกิดขึ้นในจิตวิญญาณของมนุษยชาติ โดยการต่อสู้โค่นล้มอำนาจผู้ปกครองเผด็จการยะซีดอย่างกล้าหาญแม้มีเพียงกองกำลังที่น้อยนิด – โค่นล้มอำนาจผู้ปกครองเผด็จการชาฮฺ อย่างกล้าหาญโดยมือเปล่า มีเพียงประชาชนเป็นผู้ช่วยเหลือ – การต่อสู้ของท่านอิมามฮูเซน (อ) ในแผ่นดินกัรบาลาอฺ คือการแสดงความกล้าหาญที่ส่งผลต่อจิตวิญญาณของประชาชาติอิสลามเป็นอย่างมาก ท่านอิมามฮูเซน (อ) ได้แสดงแบบอย่างให้เห็นว่า การต่อสู้ในหนทางของพระเจ้านั้นจะต้องไม่มีความกลัว แม้มีกองกำลังอันน้อยนิดก็ตาม – การต่อสู้ของอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) ในแผ่นดินอิหร่าน คือการยืนหยัดต่อสู้กับผู้ปกครองเผด็จการที่มีกองกำลังเข้มแข็งพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ ด้วยมือเปล่าๆ ในช่วงแรกหลายคนได้หัวเราะเยาะท่านว่า ท่านกำลังคิดอะไรอยู่ คิดที่จะต่อสู้กับกองทัพของชาฮฺอย่างนั้นหรือ? แต่สำหรับอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) มันคือการต่อสู้ในหนทางของเจ้า อิมามไม่กลัวสิ่งใด แม้ต้องต่อสู้ด้วยมือเปล่าก็ตาม

3-ปกป้องอิสลามจากการถูกบิดเบือนของบะนีอุมัยยะฮฺ–ปกป้องอิสลามจากการถูกบิดเบือนของชาติตะวันตก – ประชาชาติอิสลามในยุคการปกครองของยะซีด ไร้ซึ่งแบบฉบับอันดีงามของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) วงศ์วานอะฮฺลุลบัยต์ (อ) กลายเป็นผู้ถูกสาปแช่ง คนแปลกหน้า สำหรับประชาชาติอิสลาม บทบัญญัติของพระองค์ถูกเหยียบย่ำไม่มีอิสลามของมุฮัมมัดหลงเหลือให้เห็น การปฏิวัติของอิมามฮูเซน (อ) และการเป็นเชลยศึกของลูกหลานบะนีฮาชิม ได้ทำให้ประชาชาติอิสลามตื่นตัวเข้าใจการบิดเบือนศาสนาอิสลามของบะนีอุมัยยะฮฺ – ประชาชาติอิสลามและประชาชาติอิหร่านในยุคนี้ กำลังถูกกลืนด้วยอิสลามอเมริกัน และกำลังจะออกห่างจากอิสลามของมุฮัมมัด วงศ์วานอะฮฺลุลบัยต์ (อ) กลายเป็นบุคคลธรรมดาสำหรับประชาชาติอิสลาม การปฏิวัติของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) และการเสียพลีชีพของประชาชาติอิหร่านหลายแสนคน ได้ทำให้ประชาชาติอิสลามทั่วโลกเริ่มตื่นตัวเข้าใจแผนการร้ายจากอิสลามของอเมริกัน

4-ปลุกวิญญาณการต่อสู้กับผู้ปกครองเผด็จการอย่างยะซีด – ปลุกวิญญาณการต่อสู้กับผู้ปกครองเผด็จการอย่างชาฮฺสมุนตะวันตก – การปฏิวัติของท่านอิมามฮูเซน (อ) คือการปลุกจิตวิญญาณของประชาชาติอิสลามในเรื่องของการต่อสู้กับผู้ปกครองเผด็จการและอธรรม ทำลายล้างแผนการร้ายของศัตรูอิสลาม มาดแม้นว่าการต่อสู้นั้นจะมีราคาที่สูงก็ตาม ด้วยการเสียสละทรัพย์สินเงินทอง สละสิ่งที่ตนรักที่สุดในชีวิต เพื่อรักษาไว้ซึ่งศาสนาของพระองค์ เพื่อให้นมาซยังคงอยู่ เพื่อให้การอัมบิลมะอฺรูฟ วะนะฮีอะนิลมุนกัรยังคงอยู่ … ครั้งหนึ่งเมื่ออิมามซัยนุลอาบิดีน (อ) ถูกถามอย่างเหยีดหยันจากอิบรอฮีมบินฏอลฮะ ว่า “ใครคือผู้มีชัย?” อิมามซัยนุลอาบิดีน (อ) ได้ตอบว่า “เมื่อถึงเวลานมาซ เจ้าจงลุกขึ้นกล่าวอาซาน อิกอมะฮฺ และนมาซ ดูซิแล้วเจ้าจะได้รับคำตอบว่าใครคือผู้ชนะในเหตุการณ์กัรบาลาอฺ” นั่นหมายถึง “การคงอยู่ของอิสลาม และการล้มสลายของบะนีอุมัยยะฮฺ” – การปฏิวัติของอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) คือการสร้างความตื่นตัวให้กับประชาชาติอิสลามในทั่วทุกมุมโลก เพื่อต่อสู้กับผู้ปกครองเผด็จการและอธรรม และการตื่นตัวของโลกอิสลามล่าสุดก็เป็นพยานที่ชัดแจ้งแล้วล้วนได้รับอิทธิพลมาจากการปฏิวัติของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) ทั้งสิ้น มีผู้นำพรรคการเมืองหนึ่งของอินเดียได้กล่าวว่า “เป็นที่ประจักษ์แก่ข้าพเจ้าแล้ว ถ้าหากอินเดียต้องการที่จะมีชัยชนะและสถาปนาการปกครองโดยตัวเองได้ จำเป็นที่จะต้องเดินตามรอยเท้าของอิมามโคมัยนี (ร.ฮ)”

และยังมีอีกหลายๆ เป้าหมายที่การปฏิวัติของท่านอิมามโคมัยน (ร.ฮ) เป็นการปฏิวัติเดียวกับการปฏิวัติของท่านอิมามฮูเซน (อ) อาทิเช่น

– การเปิดโปงความชั่วร้ายของผู้ปกครองฏอฆูต

– การทำให้จิตวิญญาณแห่งความศรัทธา การพึ่งพิงยังพระเจ้า การมีความหวังต่อการช่วยเหลือจากพระองค์ การดุอาอฺ การซิยารัต มีชีวิตขึ้นอีกครั้ง

– การทำให้จิตวิญญาณแห่งการเสียสละ การอดทน การพลีในหนทางของพระองค์ ฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง

– การทำลายอบายมุขที่มีอยู่ในสังคมอิสลามอย่างเปิดเผย

– การปิดกั้นการแพร่หลายของวัฒนธรรมตะวันตกที่กำลังกลืนกินเยาวชนมุสลิม

– ทำให้สัญลักษณ์ต่างๆ ในศาสนามีความสำคัญ อาทิเช่น นมาซวันศุกร์ การไปทำฮัจญ์ มัสยิด และมัจญลิศต่างๆ

– เผยแพร่ศาสนาอิสลามที่แท้จริงไปทั่วทุกมุมโลก สร้างจิตวิญญาณคนหนุ่มสาวให้เป็นมุสลิมที่แท้จริง ให้ความสำคัญกับการญิฮาดุลอักบัร

จริงๆ แล้วการปฏิวัติของท่านอิมามฮูเซน (อ) และการปฏิวัติของท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) คือการปฏิวัติเดียวกัน แค่ต่างเวลาและสถานที่เท่านั้นเอง อิมามโคมัยนี (ร.ฮ) คือทายาทของอิมามฮูเซน (อ) ในยุคอิมามฮูเซน (อ) ท่านอิมามได้ทำลายล้างอิสลามอะบูซุฟยาน และในยุคของอิมามโคมัยนีท่านอิมามได้ทำลายลล้างอิสลามอเมริกัน ซึ่งเป็นอิสลามเทียมเท็จอันเดียวกันไม่มีความแตกต่างใดๆ เพราะเป้ามายคือการทำลายอิสลามมุฮัมมัด (ศ)

ท่านอิมามโคมัยนี (ร.ฮ) ได้กล่าวว่า “ประชาชาติของเราได้โค่นล้มมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของโลกลงได้อย่างราบคาบ และได้ตัดมือตัดแขนของบรรดาศัตรูลงแล้ว ซึ่งจะเป็นต้นแบบของนานาประเทศผู้ถูกกดขี่”

นายอะฮฺมัด ฮูเบอร์ นักคิดนักเขียนชาวสวีเดนคนหนึ่งได้กล่าวว่า “อิมามโคมัยนี ไม่ได้ปฏิวัติเพื่อให้ประชาชาติมุสลิมตื่นตัวเพียงประชาชาติเดียวเท่านั้น ทว่ามันได้ส่งอิทธิพลสร้างความตื่นตัวแต่ประชาชาติอื่นๆ ทั่วโลกเช่นเดียวกัน ชายผู้สูงวัยผู้นำการปฏิวัติท่านนี้ ยังไม่ตายไปจากโลกใบนี้ เขายังมีชีวิตอยู่และยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากว่าการตื่นตัวของประชาชาติต่างๆ ที่กำลังตื่นตัวอย่างไม่หยุดหย่อนขณะนี้ทั่วโลกล้วนเป็นผลมาจากการปฏิวัติของเขา”

โดย เชค มาลีกี ภักดี