การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน การปฏิวัติแห่งศรัทธา

199

เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ย่อมต้องมีที่มาที่ไป ต้องมีเหตุและผลเป็นองค์ประกอบ การปฏิวัติอิสลามในประเทศอิหร่านโดยการนำของนักการศาสนาอย่างท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ก็เช่นเดียวกัน ย่อมต้องมีเหตุผล และที่มาที่ไปเช่นเดียวกัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิวัติอิสลามในประเทศอิหร่าน เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์โลกสำหรับมวลมุสลิม และมวลมนุษยชาติ

การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน โดยการนำของท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ผ่านไปสามสิบกว่าปีแล้ว แต่การปฏิวัตินี้ก็ยังคงยืนอยู่อย่างสง่าผ่าเผย ท่ามกลางการต่อต้าน รุกราน แซงชั่น บ่อนทำลายของศัตรูทั้งภายนอก และภายในตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทว่านับวันการปฏิวัติอิสลามนี้ยิ่งกล้าแกร่ง เข้มแข็ง สามารถพัฒนาตนเองไปสู่ความก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน เทคโนโลยี การเมือง เศรษฐกิจ ฯลฯ

และที่สำคัญหลายคนคาดว่า การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน จะจบลงอย่างแน่นอน เมื่อสิ้นลมหายใจของท่าน อิมามโคมัยนี (รฎ.) ทว่าหาเป็นเช่นนั้นไม่ นับวันการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านจะยิ่งผงาดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในสายตานานาประเทศ และขยายพันธ์แนวความคิดการต่อสู้กับบรรดาทราราชไปตามนานาประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางแล้ว ณ วันนี้

หลายคนอาจสงสัย และสับสนกับความยิ่งใหญ่ของการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน คำตอบสำหรับความสงสัยและความสับสนดังกล่าวข้างต้น ท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) เองได้มีตอบเอาไว้แล้วเช่นกัน ใคร่จะขอนำมากล่าวในที่นี้เพื่อให้หลายๆ คนคลายข้อข้องใจ โดยเฉพาะศัตรูทั้งหลาย ทั้งภายนอก และภายใน พึงรู้ไว้ว่าการปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านโดยการนำของท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ที่ได้รับชัยชนะ และยิ่งใหญ่กระทั่งวันนี้มีปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้

1- การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน เป็นการปฏิวัติเพื่อพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว

ปัจจัยประการแรกที่ทำให้การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านได้รับชัยชนะในทัศนะของท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) คือ เป็นการลุกขึ้นต่อสู้เพื่อพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียว และเพื่อความพึงพอพระทัยของพระองค์เท่านั้น นี่คือปัจจัยหลักที่สำคัญที่สุดของการปฏิวัติครั้งนี้ ท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ได้ประกาศสิ่งนี้ตั้งแต่เริ่มแรกของการเคลื่อนไหวในวาระต่างๆ ของท่าน ด้วยโองการอัลกุรอานที่พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) ทรงมีพระดำรัสว่า

قُلْ إِنَّمَا أَعِظُكُم بِوَاحِدَةٍ أَن تَقُومُوا لِلَّهِ مَثْنَى وَفُرَادَى
“จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด ฉันขอเตือนพวกท่านเพียงข้อเดียวว่า พวกท่านจงยืนขึ้นเพื่ออัลลอฮ์ (ครั้งละ) สองคน และคนเดียว” (ซูเราะฮ์สะบะอ์ โองการที่ 46)

ท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ได้อรรถาธิบายโองการข้างต้นว่า “ศาสดาอิบรอฮีม (อ.) พระสหายของพระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) ได้ต่อสู้ยืนหยัดต่างๆ กระทั่งหลุดพ้นจากพันธนาการแห่งดุนยา คือการลุกขึ้นต่อสู้เพื่อพระองค์เดียว ท่านศาสดามูซา (อ.) ผู้ที่พระองค์ทรงตรัสกับท่านโดยตรง สามารถโค่นล้มฟิรอูนด้วยไม้เท้าอันเดียว กระทั่งได้ไปสู่ฐานภาพที่รักยิ่งของพระองค์ คือการลุกขึ้นต่อสู้เพื่อพระองค์เดียว และศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ศาสดาองค์สุดท้ายที่ลุกขึ้นต่อสู้กับความป่าเถื่อนต่างๆ ในวันนั้นโดยการป่าวประกาศถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.) ก็คือการลุกขึ้นต่อสู้เพื่อพระองค์เดียวเช่นกัน”

ท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ก็เป็นอีกท่านหนึ่ง ที่ได้น้อมรับพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า และได้ปฏิบัติตามแบบฉบับของบรรดาศาสดาทั้งมวล ในการยืนหยัดต่อสู้กับผู้ปกครองทรราช เพื่อพระผู้เป็นเจ้าเพียงองค์เดียว ในวันนั้นกษัตริย์ชาฮ์แห่งอิหร่าน ได้เริ่มทำลายรากฐานของอิสลามอย่างเปิดเผย บรรดาศัตรูอิสลาม สหรัฐอเมริกา อิสราเอล เข้ามามีอำนาจอย่างมากมายในประเทศอิหร่าน ท่านจึงลุกขึ้นต่อสู้กับกษัตริย์ชาฮ์แห่งอิหร่านตามพระบัญชาของพระองค์อัลลอฮ์ (ซบ.)

การลุกขึ้นต่อสู้ของท่านไม่ได้เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ทรัพย์สินเงินทอง และตำแหน่ง ฯลฯ นอกจากความพึงพอพระทัยของพระองค์เท่านั้น ตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ เมื่อการปฏิวัติได้รับชัยชนะ กษัตริย์ชาฮ์ถูกขับไล่ออกจากอิหร่าน อิมามโคมัยนี (รฎ.) ถูกเชิญให้ไปอยู่ในวังอันรโหฐานของกษัตริย์ชาฮ์ ในฐานะประมุขสูงสุดของประเทศอิหร่าน แต่ท่านปฏิเสธคำเชิญนั้น และได้ใช้ชีวิตในบ้านเล็กๆ หลังหนึ่งใกล้กับสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจจนลมหายใจสุดท้ายของท่าน

2- การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน เป็นการปฏิวัติแห่งศรัทธา

อิมามโคมัยนี (รฎ.) ได้กล่าวว่า “ปัจจัยที่นำสู่ชัยชนะ คือความศรัทธาที่มั่นคง ความศรัทธาได้นำมาซึ่งความเป็นหนึ่งเดียวกันของประชาชาติอิหร่าน ประชาชาติอิหร่านทุกคนได้ปรารถนาในสิ่งเดียวกัน ป่าวประกาศไปในทิศทางเดียวกัน รวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวกัน กู่ก้องตะโกนวาทกรรมด้วยเสียงอันดังพร้อมๆ กันว่า “สาธารณรัฐอิสลาม” คือสิ่งที่เราปรารถนา

ประชาชาติอิหร่านทั้งหมดมองเห็นการเป็นชะฮาดัต (พลีในหนทางของพระองค์) ว่าเป็นความสำเร็จที่รุ่งโรจน์ พวกเขาหลุดพ้นจากพันธนาการต่างๆ แห่งดุนยา ต่อสู้กับรถถัง กับระเบิดนานาชนิด และพวกเขาก็ได้มีชัยเหนือพลทหารของมาร และฏอฆูตในที่สุด”

อิมามโคมัยนี (รฎ.) ได้กล่าวอีกว่า “จงรักษาความศรัทธานี้ไว้ให้มั่น จงรักษาการปฏิวัตินี้ไว้ให้ได้ จงรักษาวาทกรรมอันยิ่งใหญ่ไว้ ความศรัทธาเท่านั้นที่จะทำให้รัฐแห่งนี้มีชีวิตชีวาตลอดไป การเปลี่ยนแปลงที่ได้เกิดขึ้นที่นี่ การปฏิวัติตัวตนของมวลมุสลิมที่ได้ก่อตัวขึ้นในที่นี่ คือปัจจัยที่นำสู่ชัยชนะของการปฏิวัติอิสลาม”

imamkhomaini03_1

3- การปฏิวัติอิสลาม คือการลุกขึ้นต่อสู้กับผู้กดขี่ และผู้บ่อนทำลาย

การลุกขึ้นต่อสู้กับผู้กดขี่ และผู้บ่อนทำลาย คืออีกปัจจัยสำคัญหนึ่งของนำชัยชนะมาสู่การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน โดยการนำของท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) และประชาชาติอิหร่านได้ยึดเอาบทบัญญัติหนึ่งของอัลกุรอานที่พระองค์ทรงมีพระบัญชาว่า

وَلاَ تَرْكَنُواْ إِلَى الَّذِينَ ظَلَمُواْ فَتَمَسَّكُمُ النَّارُ وَمَا لَكُم مِّن دُونِ اللَّهِ مِنْ أَوْلِيَاء ثُمَّ لاَ تُنصَرُونَ
“และพวกท่านอย่าเห็นชอบไปกับบรรดาผู้อธรรม ไฟนรกจะสัมผัสพวกท่านได้ และสำหรับพวกท่านไม่มีผู้คุ้มครองใดๆ นอกจากอัลลอฮ์ แล้วพวกท่านจะไม่ช่วยเหลือ” (ซูเราะฮ์ฮูด โองการที่ 113)

ดังนั้นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ทำให้การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน โดยการนำของท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ได้รับชัยชนะ คือการมีเป้าหมายต่อการลุกขึ้นต่อสู้กับการกดขี่ข่มเหงของผู้มีอำนาจ เป้าหมายสูงสุดของการปฏิวัติคือการ ต่อสู้กับการกดขี่ของผู้ปกครองที่อธรรม และผู้ที่บ่อนทำลายอิสลาม นี่คือเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน

ท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ผู้นำการปฏิวัติที่ยิ่งใหญ่ได้กล่าวไว้ว่า “ภารกิจของพวกเราคือ ลุกขึ้นต่อสู้กับการกดขี่ทั้งหลาย เราจะทำสงครามกับผู้กดขี่ทั้งหลาย ถ้าหากเราปฏิบัติภารกิจนี้จนพวกเขาล่าถอยไป นั่นคือความสำเร็จ แต่ถ้าหากไม่ นั่นหมายความว่าเราได้ปฏิบัติภารกิจของเราอย่างสุดความสามารถแล้ว”

imamkhomaini04_1

อีกครั้งหนึ่งที่ท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ได้กล่าวว่า

โอ้พระองค์อัลลอฮ์… พระองค์ทรงรู้ดีว่าพวกเราลุกขึ้นต่อสู้เพื่อความพึงพอพระทัยของพระองค์
โอ้พระองค์อัลลอฮ์…. พระองค์ทรงรู้ดีว่าพวกเรารังเกียจการกดขี่แม้เป็นการกดขี่เพียงคนเดียวก็ตาม
โอ้พระองค์อัลลอฮ์…. พระองค์ทรงรู้ดีว่าพวกเราลุกขึ้นต่อสู้เพื่อนำมาซึ่งความชอบธรรมทั้งหลาย

ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นแค่เพียงปัจจัยเบื้องต้นที่ทำให้การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านได้รับชัยชนะ การปฏิวัติเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ แต่หากถามว่าการปฏิวัติใดบ้างที่ยังคงเป็นอมตะจนถึงทุกวันนี้ ถ้าไม่ใช่การปฏิวัติอิสลามในอิหร่านของท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.)

ท่านอายะตุลลอฮ์ ซัยยิดอะลี คอเมเนอี ได้กล่าวว่า “ถ้าไม่มีอิมามโคมัยนี (รฎ.) ก็จะไม่มีวันที่ขบวนการปฏิวัตินี้ จะมีชื่อปรากฏอยู่ในโลก และหลังจากการปฏิวัติแห่งอิหร่านก็ยังจะไม่มีการปฏิวัติอื่นใดปรากฏขึ้นในโลก เว้นแต่การปฏิวัตินั้นจะมีชื่อของอิมามโคมัยนี (รฎ.) เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่ด้วย”

การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านนั้นสำเร็จลงได้ ก็เพราะมีผู้นำอย่างท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) อีกทั้งความสำเร็จของท่าน ในด้านการสถาปนารัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ได้กลายเป็นแรงดลใจให้เกิดการปฏิวัติในที่อื่นๆ อีกด้วย

ถ้าหากจะเจาะลึกลงไปอีกว่า แบบฉบับการปฏิวัติของอิมามโคมัยนี (รฎ.) ได้รับอิทธิพลมาจากการปฏิวัติใด หรือเป็นผลผลิตการปฏิวัติของผู้ใด ท่านอิมามโคมัยนี (รฎ.) ก็มักถูกถามจากสื่อต่างๆ ว่า อะไรคือแรงจูงใจ อะไรคือสูตรสำเร็จ? ท่านตอบอยู่เสมอๆ ว่า “ทั้งหมดที่เรามี ณ วันนี้ เราได้มาจากอิมามฮุเซน (อ.) เราได้มาจากกัรบาลา และอาชูรอ”

โดย เชคมาลีกี ภักดี