ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ.) ได้กล่าว่า “โอ้มนุษย์เอ๋ย แท้จริงแล้วเดือนแห่งพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งเต็มไปด้วยความสิริมงคล ความโปรดปรานต่างๆ และการอภัยโทษอย่างล้นเหลือนั้น ได้มาเยือนพวกท่านแล้ว เดือนนี้เป็นเดือนที่ประเสริฐยิ่งกว่าเดือนอื่นๆ ณ พระองค์ และเช่นเดียวกัน แต่ละวันในเดือนนี้จะสูงส่งกว่าแต่ละวันในเดือนอื่นๆ ทั้งกลางวันและกลางคืน ทุกเสี้ยววินาทีของเดือนนี้ประเสริฐกว่าทุกเสี้ยววินาทีในเดือนอื่นๆ เดือนนี้ทั้งเดือนพวกท่านคือแขกผู้ทรงเกียรติของพระผู้เป็นเจ้า
ในเดือนนี้เช่นกัน บ่าวผู้เลอเลิศของพระองค์ จะถูกคัดสรรออกมา ลมหายใจของพวกท่านในเดือนนี้ผลบุญเทียบเท่ากับการสรรเสริญพระองค์ การหลับนอนของพวกท่านในเดือนนี้ผลบุญเทียบเท่ากับการเคารพภักดี (อิบาดะฮ์) การปฏิบัติภารกิจต่างๆในเดือนนี้ของพวกท่านจะถูกยอมรับ การวิงวอนต่างๆของพวกท่านจะถูกตอบรับอย่างแน่นอน
ดังนั้นพวกท่านจงหมั่นวิงวอนให้มากต่อพระองค์ในเดือนนี้ ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ปราศจากการกระทำบาปต่างๆ เพื่อที่จะทำให้พวกท่านนั้นได้รับการดลใจจากพระองค์ จากการถือศีลอด และอ่านพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ในเดือนนี้ด้วย
ด้วยเหตุนี้เอง บุคคลที่โชคร้ายที่สุดในเดือนนี้ คือผู้ซึ่งมิได้รับการอภัยโทษใดๆ เลยจากพระองค์ ความหิวกระหายของพวกท่านในเดือนนี้ จะทำให้พวกท่านระลึกถึงความหิวกระหายในวันแห่งการตัดสิน จงบริจาคทานแก่ผู้ยากจนขัดสนที่มีอยู่ในหมู่พวกท่าน จงให้เกียรติแก่ผู้อวุโสของพวกท่าน จงเมตตาปรานี เอาใจใส่มอบความรักต่อเด็กๆ ของพวกท่าน และต่อครอบครัวของพวกท่านให้มาก
และจงหักห้ามคำพูดของพวกท่านจากสิ่งที่ไร้สาระ และสิ่งที่ไม่ควรพูด จงทำให้สายตาของพวกท่านออกห่างจากการมองในสิ่งต้องห้ามทั้งปวง จงปกป้องหูของพวกท่านจากการได้ยินเสียง และฟังในสิ่งที่ไม่อนุญาต
จงเอื้อเฟื้อและมอบความอบอุ่น แก่บรรดาเด็กกำพร้าของผู้อื่น เพื่อที่ว่าในวันข้างหน้า พวกเขาจะได้มอบความเอื้อเฟื้อ และความอบอุ่นแก่เด็กกำพร้าของพวกท่านด้วย
จงวิงวอนขออภัยโทษต่อพระองค์ จากความผิดต่างๆ และจงวิงวอนขอความโปรดปรานจากพระองค์ในช่วงเวลาของการนมาซให้มากที่สุด เนื่องจากเวลาที่ประเสริฐสุดในช่วงแห่งกาลเวลา คือช่วงเวลาแห่งการนมาซ พระองค์จะทรงทอดพระเนตร และโปรยปรายความเมตตาของพระองค์ยังบ่าวของพระองค์ในช่วงเวลาดังกล่าว พระองค์จะทรงขานรับทุกขณะ เมื่อเขาส่งเสียงเรียกพระองค์ และพระองค์จะทรงตอบรับทุกครั้ง เมื่อเขาวิงวอนขอจากพระองค์
โอ้บรรดามนุษย์เอ๋ย! แท้ที่จริงแล้วชีวิตของพวกท่านนั้น ตกอยู่ในบ่วงพันธนาการแห่งการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ของพวกท่านเอง ดังนั้นพวกท่านจงวิงวอนขออภัยโทษจากพระองค์เพื่อให้รอดพ้นจากบ่วงพันธนาการ (ปฏิบัติภารกิจที่ไม่ดี) นั้นเถิด บัญชีการกระทำบาปของพวกท่านนั้นหนักอึ้ง อยู่บนบ่าของพวกท่านเอง ซึ่งเต็มไปด้วยบาปต่างๆ
ดังนั้นจงลดการกระทำบาปของพวกท่านเถิด ด้วยการก้มลงกราบกรานต่อพระองค์ให้มาก ซึ่งพระองค์ ทรงสาบานด้วยความสูงส่งของพระองค์เองว่า พระองค์จะไม่ทรงลงโทษผู้ที่ปฏิบัตินมาซ และอยู่กับการกราบกราน (สุญูด) ต่อพระองค์ ในเดือนนี้อย่างแน่นอน และจะปกป้องเขาจากความหวาดกลัวไฟนรกในวันแห่งการตัดสิน
โอ้มนุษย์ทั้งหลายเอ๋ย ! บุคคลใดก็ตาม ที่เชื้อเชิญผู้ศรัทธาที่ถือศีลอดในเดือนนี้ เพื่อละศีลอด ผลบุญที่เขาจะได้รับเทียบเท่ากับการปลดปล่อยทาสผู้หนึ่งให้เป็นไท และบาปต่างๆ ในอดีตของเขาจะได้รับการอภัยโทษทันที
ทันใดนั้นบางคนในหมู่สาวกของท่านศาสดา (ศ.) จึงได้ถามขึ้นว่า : โอ้ศาสดาของพระองค์ (ศ.) พวกเราคงไม่มีความสามารถที่จะกระทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากฐานะของพวกเราไม่ค่อยดีนัก (หมายถึงคงไม่มีความสามารถที่จะเชื้อเชิญใครไปละศีลอดที่บ้านได้)
ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ได้ตอบว่า : จงออกห่างจากไฟนรกด้วยการเชิญผู้ถือศีลอดในเดือนรอมฎอนอันทรงเกียรตินี้ ถึงแม้ว่าท่านจะมีผลอินทผลัมเพียงครึ่งผล หรือมีเพียงน้ำหวานแก้วหนึ่งก็ตาม พระองค์จะทรงประทานผลบุญแก่ทุกคนที่ปฏิบัติเช่นนั้น ตามความสามารถที่แต่ละคนพึงกระทำได้
โอ้มนุษย์ทั้งหลายเอ๋ย ! ผู้ใดก็ตามที่ปฏิบัติตนให้อยู่ในกริยามารยาท และจริยธรรมที่ดีงามในเดือนนี้ เขาจะเดินทางผ่านสะพานซิรอตอย่างง่ายดาย ในวันซึ่งทุกๆ เท้าจะมีแต่ความสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว เมื่อต้องเดินผ่านสะพานซิรอต
ผู้ใดก็ตามที่ลดหน้าที่การงานของทาสผู้รับใช้ คนงานของเขาให้เบาลง หรือทำงานน้อยลง พระองค์จะทรงทำให้การสอบสวนของเขานั้นง่ายดายในวันแห่งการสอบสวน ใครก็ตามที่หักห้ามความชั่วร้ายของเขามิให้เกิดขึ้นต่อผู้อื่นในเดือนนี้ พระองค์จะไม่ทรงกริ้วโกรธต่อเขาในวันแห่งการตัดสิน
ผู้ใดก็ตามที่ไปมาหาสู่ และกระทำดีต่อเครือญาติของเขาในเดือนนี้ พระองค์จะทรงประทานความโปรดปรานของพระองค์แก่เขาอย่างมากมายในวันแห่งการตัดสิน และใครก็ตามที่ตัดความสัมพันธ์กับเครือญาติในเดือนนี้ พระองค์ก็จะทรงทำให้เขาถูกตัดขาดจากความโปรดปรานของพระองค์ในวันแห่งการตัดสิน
ผู้ใดก็ตามที่ปฏิบัตินมาซภาคอาสา (มุสตะฮับ) ในเดือนนี้ พระองค์จะทรงจารึกแก่เขาว่า เขาคือผู้ที่ถูกตัดขาดจากไฟนรกแล้ว และผู้ใดก็ตามที่ปฏิบัตินมาซภาคบังคับประจำวัน (วาญิบ) ในเดือนนี้ พระองค์จะทรงประทานผลบุญถึง 70 เท่าของนมาซภาคบังคับประจำวัน (วาญิบ) ในเดือนอื่นๆ
และบุคคลใดก็ตามที่กล่าวอำนวยพร (ศอลาวาต) แก่ฉันอย่างยิ่งในเดือนนี้ พระองค์จะทรงทำให้ตาชั่งการปฏิบัติภารกิจ (อามั้ล) แห่งความดีหนักขึ้นกว่าเดิม ในวันซึ่งตาชั่งแห่งการปฏิบัติความดีว่างเปล่า และผู้ใดทีได้อ่านพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานเพียงหนึ่งโองการในเดือนนี้ ผลบุญของเขาจะเทียบเท่ากับผลบุญของบุคคบลซึ่งได้อ่านพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานจบทั้งเล่มในเดือนอื่นๆ
โอ้มนุษย์ทั้งหลายเอ๋ย ! แท้ที่จริงแล้วประตูทุกบานแห่งสรวงสวรรค์จะถูกเปิดออกในเดือนนี้ ดังนั้นจงวิงวอนจากพระองค์เถิด อย่าให้ประตูเหล่านั้นถูกปิดสำหรับพวกท่าน และเช่นกันประตูทุกบานของนรกจะถูกปิดสนิทในเดือนนี้ และพวกท่านจงวิงวอนต่อพระองค์เถิด อย่าให้ประตูเหล่านั้นถูดเปิดสำหรับพวกท่าน
บรรดาชัยฏอนมารร้ายจะถูกล่ามโซ่ไว้ทั้งหมดในเดือนนี้ ดังนั้นจงวิงวอนต่อพระองค์ผู้ทรงกรุณาปรานีเถิด อย่าให้มารร้ายเหล่านั้นเข้าครอบงำพวกท่านได้”
เมื่อถึงตรงนี้ ท่านอิมามอะลี (อ) ได้รายงานต่อว่า “ขณะนั้นเองฉันจึงได้ลุกขึ้นยืน และถามท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ว่า โอ้ รอซูลของพระองค์อัลลอฮ์ อะมั้ลที่ดีที่สุดในเดือนนี้ (รอมฎอน) คืออะไร?”
ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ได้ตอบว่า “โอ้ บิดาของฮาซันเอ๋ย การปฏิบัติที่ดีที่สุดในเดือนนี้คือ การละเว้นจากการกระทำบาป”
โดย… เชคมาลีกี ภักดี