สารัตถะที่แท้จริงของเดือนชะอ์บาน คือเดือนที่มีเกียรติยิ่ง เป็นเดือนของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ในเดือนนี้มีวันต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความสิริมงคล (บะรอกัต) อาธิเช่น วันประสูติของท่านอิมามฮูเซน (อ) หัวหน้าชายหนุ่มในสรวงสวรรค์ วันประสูติของท่านอะบัลฟัฎล์ อับบาส (อ) จันทร์เพ็ญแห่งบะนีฮาชิม วันประสูติของอิมามอะลี ซัยนุลอาบิดีน (อ) อิมามท่านที่สี่ในวงศ์วานอะฮ์ลุลบัยต์ (อ) หัวหน้าแห่งชาวกราบกราน วันประสูติของท่านอะลีอักบัร บุตรชายคนโตของท่านอิมามฮูเซน (อ)
มากไปกว่านั้นในเดือนชะอ์บานนี้ บุรุษผู้หนึ่งที่ประชาคมโลกต่างรอคอยการมาปรากฎกายของท่าน วันประสูติของท่านก็อยู่ในเดือนนี้ นั่นคือท่านอิมามมะฮ์ดี (อ) หากเราได้พิจารณาให้ดีเราก็จะเห็นว่า ในเดือนชะอ์บานไม่มีปรากฎวันแห่งการเป็นชะฮาดัต (เสียชีวิตในหนทางของพระองค์) ของอิมามท่านใดเลยแม้แต่ท่านเดียว
ถ้าหากพวกท่านประสงค์ที่จะเดินทางไปเป็นแขกของผู้หนึ่งผู้ใด แน่แท้ยิ่งพวกท่านจะต้องแต่งกายที่ดูแล้วดี มีสง่าราศรี เพื่อให้เกียรติแก่เจ้าภาพที่ท่านกำลังจะเดินทางไปเป็นแขกของเขาผู้นั้น
เช่นเดียวกัน เดือนชะอ์บานอันทรงเกียรตินี้ เปรียบเสมือนการแต่งตัว ให้ตัวพวกท่านมีสง่าราศรี ทั้งด้านนอก และด้านใน เพื่อจะไปเป็นแขกของพระผู้เป็นเจ้าในเดือนรอมฎอนอันทรงเกียรติ เดือนชะอ์บาน จึงเป็นเดือนที่มนุษย์จะต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม เพื่อเข้าสู่งานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งมีพระผู้เป็นเจ้าเป็นเจ้าภาพในงานเลี้ยงนั้น คือเดือนรอมฎอนอันทรงเกียรติ
เดือนทั้งสามนี้ คือเดือนรอญับ เดือนชะอ์บาน และเดือนรอมฎอน ได้สร้างความเป็นสิริมงคลแก่มนุษย์อย่างมากมาย แต่ทว่าสำหรับมนุษย์ที่เขาได้ตักตวงผลประโยชน์จากเดือนทั้งสามอย่างเต็มที่เท่านั้น
ปฐมบทของศาสนาอิสลาม คือการมับอัษ (การแต่งตั้งศาสดามุฮัมมัด (ศ) ให้เป็นศาสนทูตของพระองค์เหนือมนุษยชาติ) และวันแห่งการมับอัษ เกิดขึ้นในเดือนรอญับอันทรงเกียรติ ผู้สืบทอดเจตนารมณ์แห่งการมับอัษ หรือผู้สานต่อตำแหน่งผู้นำแห่งมนุษยชาติต่อจากท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) คือท่านอะมีรุ้ลมุอ์มินีน อิมามอะลี (อ) ก็ประสูติในเดือนรอญับเช่นกัน และอิมามท่านอื่นๆ
เดือนต่อมาคือเดือนชะอ์บาน อิมามฮูเซน (อ) ผู้ชุบชีวิตแห่งการมับอัษ หลังจากที่เจตนารมณ์แห่งการมับอัษได้ถูกทำลายไปอย่างมากมายโดยศัตรูของอิสลาม ก็ได้ประสูติในเดือนนี้ และอิมามมะฮ์ดี (อ) ผู้ที่จะมาสถาปนารัฐบาลโลก ผู้ที่จะมาทำให้การมับอัษของพระองค์เสร็จสมบูรณ์ ก็ได้ประสูติในเดือนนี้
เดือนรอมฎอน คือเดือนแห่งการประทานลงมาของพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน ธรรมนูญชีวิตของมนุษยชาติ เพื่อการพัฒนาตัวตนมุ่งสู่การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ และเป็นบ่าวที่แท้จริงของพระองค์
ความประเสริฐของทั้งสามเดือนนี้มีอยากมากมายเหลือคณานัป ซึ่งอยู่เหนือคำบรรยาย อยู่เหนือการทำความเข้าใจของมนุษย์ธรรมดาๆ อย่างพวกเรา ไม่มีเดือนใดๆ ที่จะมีบทวิงวอน บทขอพร มากมายเหมือนเดือนทั้งสามนี้
ในเดือนรอมฎอน มีค่ำคืนแห่งกัดร์ และในเดือนชะอ์บานมีค่ำคืนนิสฟุชะอ์บานซึ่งเป็นผลพวงมาจากค่ำคืนแห่งกัดร์ เดือนรอมฎอนมีเกียรติยศเพราะรอมฎอนมีค่ำคืนแห่งกัดร์ เฉกเช่นเดียวกัน เดือนชะอ์บานมีเกียรติยศเพราะชะอ์บานมีค่ำคืนนิสฟุชะอ์บานอยู่นั่นเอง
เดือนรอมฎอนมีเกียรติยศ เนื่องจากพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานถูกประทานลงมาในเดือนรอมฎอน เช่นเดียวกัน เดือนชะอ์บานที่ได้ยิ่งใหญ่ ก็เนื่องจากว่าการมาประสูติของผู้หนึ่งในค่ำคืนนิสฟุชะอ์บาน ผู้ซึ่งทำให้พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานที่ถูกประทานมาในเดือนรอมฎอน กลายเป็นธรรมนูญชีวิตของมนุษยชาติอย่างสมบูรณ์แบบในยุคสุดท้ายของโลกนี้
เดือนรอมฎอน คือเดือนแห่งการสำแดงค่ำคืนแห่งกัดร์ สารัตถะต่างๆ ถูกกำหนดเอาไว้ในค่ำคืนดังกล่าวทั้งสิ้นแล้ว และเดือนชะอ์บาน คือเดือนแห่งการมาจุติของอิมามมะอ์ซูม (อ) นั่นคือการสานต่อคำคืนแห่งกัดร์นั่นเอง
เดือนรอมฎอน คือเดือนที่พระองค์ได้ประทานพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานลงมา เป็นคัมภีร์ที่เป็นธรรมนูญชีวิตสำหรับมนุษยชาติ ในทุกๆ มิติ และเดือนชะอ์บานคือเดือนของอิมามมะอ์ซูม (อ) ซึ่งพวกท่านเหล่านั้นคือผู้ที่จะมาสาธยายคัมภีร์ของพระองค์
อิมามมะฮ์ดี (อ) มีมิติต่างๆ มากมายสำหรับมนุษยชาติ บางมิติของท่านได้ถูกสาธยายแล้ว โดยพระมหาคัมภีร์อัลกุรอาน และโดยท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) แต่บางมิติในมิติแห่งจิตวิญญาณ ซึ่งยังไม่ได้ถูกเปิดเผย จะมีก็แต่ศาสดา และอิมามมะอ์ซูมเท่านั้นที่รู้เรื่องราวเหล่านั้น
อำนาจสูงสุดที่ศาสดามุฮัมมัด (ศ) มีเหนือสิ่งถูกสร้างทั้งมวลของพระองค์ อิมามมะฮ์ดี (อ) ก็มีอำนาจเดียวกันกับท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ที่จะมีเหนือสิ่งถูกสร้างทั้งหมดของพระองค์
ศาสดามุฮัมมัด (ศ) คือผู้ประทับตราบรรดาศานทูตแห่งพระผู้เป็นเจ้า (ศาสดาองค์สุดท้าย) และอิมามมะฮ์ดี (อ) คือผู้ประทับตราบรรดาอิมามมะอ์ซูมแห่งพระผู้เป็นเจ้า (อิมามองค์สุดท้าย)
ดังนั้นทั้งสองเดือนนี้ ชะอ์บาน และรอมฎอน คือเดือนที่พวกเราทุกคนต้องหวนกลับไปหา และให้เกียรติอย่างยิ่ง
โดย เชคมาลีกี ภักดี