สถานะของมนุษย์ในอิสลาม

287

ปฐมบทแห่งการสร้าง : มนุษย์คือปฐมบทแห่งการสร้างของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงตรัสว่า โดยแน่นอน เราได้ให้เกียรติแก่ลูกหลานของอาดัม และเราได้บรรทุกพวกเขาทั้งทางบกและทางทะเล และได้ให้ปัจจัยยังชีพที่ดีทั้งหลายแก่พวกเขา และเราได้ให้พวกเขาดีเด่นอย่างมีเกียรติเหนือกว่าสิ่งที่เราได้ให้บังเกิดมาเป็นส่วนใหญ่” (อัล-กุรอาน 17/70)

กำเนิดบริสุทธิ์ : อิสลามสอนว่ามนุษย์ทุกคนนั้นเกิดมาโดยปราศจากความบาป ไม่มีเด็นคนไหนที่ต้องแบกรับความบาปของบรรพบุรุษของพวกเขา พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสว่า และไม่มีผู้แบกภาระคนใดที่จะแบกภาระของผู้อื่นได้….” (อัล-กุรอาน 35/18) มนุษย์แต่ละคนถือกำเนิดมาพร้อมกับจิตสำนึกที่บริสุทธิ์ซึ่งสามารถซึมซับและรับคำสอนที่แท้จริงจากพระผู้เป็นเจ้าได้ ด้วยอิทธิพลจากสังคมและครอบครัวเท่านั้นที่ทำให้มนุษย์หันห่างออกจากคำสอนของพระผู้เป็นเจ้า

equal3

พันธกิจ : อิสลามได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของความรับผิดชอบและภาระหน้าที่ของมนุษย์ด้วยเช่นกัน มนุษย์แต่ละคนต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง ถึงแม้อิสลามจะสอนไว้ว่า พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกำหนดช่วงเวลาของชีวิตและเวลาตายของเราเอาไว้ล่วงหน้าแล้วก็ตาม แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าการกระทำของเราจะถูกพระองค์กำหนดล่วงหน้าเอาไว้แล้วด้วย เรามีอิสระในการกระทำของเราอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้น ก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำเหล่านั้นด้วย พระผู้เป็นเจ้าเพียงแต่ทรงให้เครื่องชี้นำแก่เราว่าสิ่งใดดีและสิ่งใดชั่วเท่านั้น พระองค์ทรงตรัสว่า “แท้จริงเราได้สร้างมนุษย์จากน้ำหยดหนึ่ง…… แท้จริงเราได้ชี้แนะแนวทางให้แก่เขาแล้ว บางทีเขาก็เป็นผู้กตัญญู และบางทีเขาก็เป็นผู้เนรคุณ” (76/2-3)

ชาติพันธุ์ : อิสลามปฏิเสธการแบ่งแยกชาติพันธุ์อย่างเด็ดขาด และสนับสนุนส่งเสริมความเป็นภราดรภาพและความเท่าเทียมกันในหมู่ผู้ศรัทธา พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสไว้อย่างชัดเจนว่า “โอ้มนุษยชาติทั้งหลาย แท้จริงเราได้สร้างพวกเจ้าจากเพศชาย และเพศหญิง และเราได้ให้พวกเจ้าแยกเป็นเผ่า และตระกูลเพื่อจะได้รู้จักกัน” เพราะฉะนั้น ไม่มีใครสามารถจะอ้างว่ามีความสูงส่งกว่าคนอื่นที่แตกต่างกันทางเผ่าพันธุ์และชาติตระกูล พระผู้เป็นเจ้าทรงตรัสต่อไปว่า “แท้จริงผู้ที่มีเกียรติยิ่งในหมู่พวกเจ้า ณ ที่อัลลอฮ.นั้น คือผู้ที่มีความยำเกรงยิ่งในหมู่พวกเจ้า…” (อัล-กุรอาน 49/13)

เพศ : แม้แต่เพศก็ไม่ถือว่าเป็นบรรทัดฐานของความสูงส่ง ในอิสลาม ผู้หญิงก็มีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกับผู้ชาย คุณค่าของมนุษย์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศของพวกเขา แต่ขึ้นอยู่กับความศรัทธาและบุคลิกลักษณะของพวกเขาต่างหาก เมื่อหนึ่งพันสี่ร้อยปีที่แล้ว อัล-กุรอานได้บันทึกบทบัญญัติอันชัดเจนของพระผู้เป็นเจ้าในเรื่องนี้เอาไว้ ความว่า “และผู้ใดกระทำในส่วนที่เป็นสิ่งดีงามทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิงก็ตาม ในฐานะที่เขาเป็นผู้ศรัทธาแล้วไซร้ ชนเหล่านี้จะได้เข้าสวรรค์” (อัล-กุรอาน 4/124) ดังนั้นจึงไม่มีความแตกต่างทั้งในเรื่องระดับชั้นและฐานะในความเป็นมนุษย์และเกียรติยศในอิสลามของผู้หญิง

ความแตกต่างประการเดียวที่มีอยู่ก็คือ ความเกี่ยวข้องกับกฎเกณฑ์ที่อิสลามได้กำหนดไว้แก่ผู้ชายและผู้หญิง สิ่งนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องความสูงส่งและความต้อยต่ำ ในอิสลาม ผู้ชายและผู้หญิงมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน แต่ความเท่าเทียมกันนั้นไม่ได้มีความหมายตรงกับคำว่าเหมือนกัน

Global Team

อิสลามเชื่อว่าผู้ชายและผู้หญิงนั้นเท่าเทียมกันแต่ไม่เหมือนกัน อิสลามมองไปยังบทบาทในสังคมที่แตกต่างกันของพวกเขา ไม่ใช่ในฐานะความสูงส่งหรือต่ำต้อย แต่ในฐานะการเป็นองค์ประกอบเพื่อความบริบูรณ์ของกันและกัน