มุฮัมมัดผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์(1)

174

จากการจัดลำดับ 100 ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดในประวัติศาสตร์

โดย ไมเคิล เอช. ฮาร์ท

การที่ข้าพเจ้าเลือกมุฮัมมัด(ศ.) ให้เป็นผู้นำในรายชื่อของผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดของโลกนั้นอาจทำให้ผู้อ่านบางคนประหลาดใจ และหลายคนอาจตั้งคำถาม แต่เขาเป็นมนุษย์คนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดทั้งในด้านของศาสนาและชีวิตทางโลก

ผู้สถาปนาศาสนาที่ยิ่งใหญ่ของโลก

จากคนธรรมดา มุฮัมมัด(ศ.) ได้สถาปนาและประกาศศาสนาที่ยิ่งใหญ่ศาสนาหนึ่งของโลก และกลายมาเป็นผู้นำทางการเมืองที่เห็นผลได้อย่างแท้จริง ปัจจุบัน หลังจากที่เขาเสียชีวิตไปสิบสี่ศตวรรษแล้ว อิทธิพลของเขายังมีอำนาจและแผ่ขยายไปอย่างกว้างขวาง ผู้ทรงอิทธิพลคนอื่นๆ ส่วนใหญ่นั้นมักจะได้เปรียบโดยการถือกำเนิดและเติบโตขึ้นในใจกลางของอารยธรรม อยู่ในชาติที่มีวัฒนธรรมและการเมืองที่สูง แต่อย่างไรก็ตาม มุฮัมมัด(ศ.) เกิดในเมืองมักกะฮฺทางตอนใต้ของดินแดนอาหรับเมื่อปี ค.ศ.570 ในสมัยนั้นเป็นดินแดนที่ล้าหลังของโลก ห่างไกลจากศูนย์กลางการค้าขาย ศิลปะ และการศึกษา เขาเป็นกำพร้าตั้งแต่อายุหกขวบ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ขาดแคลน เขาเป็นคนไม่รู้หนังสือ ฐานะทางเศรษฐกิจของเขาดีขึ้นเมื่อได้แต่งงานกับสตรีหม้ายที่ร่ำรวยคนหนึ่งเมื่ออายุได้ยี่สิบห้าปี

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะอายุสี่สิบปีนั้น ไม่มีสิ่งใดบ่งบอกว่าเขาเป็นบุคคลที่โดดเด่น ชาวอาหรรับส่วนใหญ่ในสมัยนั้นเป็นคนนอกรีตที่เชื่อในเทพเจ้าหลายองค์ ถึงแม้ในเมืองมักกะฮฺจะมีชาวยิวและคริสเตียนอยู่ด้วยบ้างก็ตาม ซึ่งไม่ต้องสงสัยว่าจากคนเหล่านี้เองที่มุฮัมมัด(ศ.) ได้เรียนรู้เรื่องพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงอำนาจพระองค์เดียว ผู้ปกครองสากลจักรวาล

เมื่อเขาอายุสี่สิบ มุฮัมมัด(ศ.) ได้รับการดลใจให้รู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวนี้เองได้เลือกเขาให้ทำการเผยแพร่ศาสนาที่แท้จริง เป็นเวลาสามปีที่มุฮัมมัด(ศ.) ได้สอนคนในครอบครัวและญาติมิตรที่สนิทกันเท่านั้น ต่อมาปีค.ศ.613 เขาจึงเริ่มทำการเผยแพร่ต่อสาธารณชน เมื่อมีผู้หันมาปฏิบัติตามคำสอนของท่านมากขึ้น ผู้มีอำนาจในเมืองมมักกะฮฺเริ่มเห็นว่าเขาเป็นผู้ก่อความน่ารำคาญที่อันตราย ในปี 622 เพื่อความปลอดภัย มุฮัมมัด(ศ.) จึงได้หนีไปยังเมืองมะดีนะฮฺ (ห่างจากมักกะฮฺไปทางเหนือประมาณ 200 ไมล์) ที่นั่นเขามีฐานะเป็นผู้มีอำนาจทางการเมืองที่สำคัญ การเดินทางครั้งนี้เรียกว่าฮิจเราะฮฺ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของท่านศาสดา

ที่มักกะฮฺเขามีผู้สาวกผู้ปฏิบัติตามเพียงน้อยนิด แต่ในมะดีนะฮฺมีมากกว่าเยอะ และในไม่ช้าเขาก็มีอิทธิพลที่ทำให้เขาเป็นผู้นำที่มีอำนาจเด็ดขาด ในช่วงเวลาไม่กี่ปีต่อมา สาวกของมุฮัมมัดเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการทำสงครามกันหลายครั้งระหว่างมักกะฮฺและมะดีนะฮฺ การสู้รบสิ้นสุดลงในปี ค.ศ.630 ด้วยการกลับสู่มักกะฮฺอย่างผู้มีชัยของมุฮัมมัด(ศ.) ในฐานะผู้พิชิต ตลอดช่วงเวลาสองปีครึ่งที่เหลือของชีวิตเขานั้น ได้เห็นชนเผ่าชาวอาหรับเปลี่ยนมารับนับถือศาสนาใหม่นี้อย่างรวดเร็ว

is&wld