ขณะ ที่อิมามฮุเซน(อ.) ยืนอยู่เพียงคนเดียวในสนามรบ ถูกล้อมรอบด้วยหมู่ศัตรู ท่านหญิงซัยนับ(อ.) ได้เรียกท่านจากด้านในกระโจม เมื่อท่านกลับไปที่กระโจม ท่านพบว่า อะลี อัสฆัร บุตรชายที่ยังเป็นทารกวัยเพียง 6 เดือนของท่าน กำลังจะเสียชีวิตเพราะขาดน้ำอยู่ในเปล และรุบ้าบ มารดาผู้น่าสงสารของเขาซึ่งให้นมเขาจนน้ำนมเหือดแห้ง ไม่มีอะไรจะให้เขาดื่มกินอีกแล้วแม้แต่นมสักหยดเดียว อิมามฮุเซน(อ.) บอกกับมารดาของลูกว่าท่านจะนำทารกน้อยไปขอน้ำจากพวกศัตรูเผื่อว่าพวกนั้นจะ ให้น้ำแก่เขา แล้วท่านก็ได้นำทารกน้อยออกไปสู่สนามรบ ท่านชูบุตรชายของท่านขึ้นเพื่อให้ทุกคนในกองทัพของศัตรูได้เห็น และกล่าวว่า
“โอ้ประชาชนเอ๋ย ถ้าในความคิดของพวกเจ้า เห็นว่าฮุเซนคนนี้มีความผิดด้วยบาปหรืออาชญากรรมใดๆ แต่ทารกไร้เดียงสาคนนี้ไม่เคยทำสิ่งใดที่สร้างความเจ็บปวดแก่ใครในหมู่พวก เจ้า เขายังพูดไม่ได้ด้วยซ้ำ และไม่เคยแม้แต่จะกล่าวร้ายต่อเจ้าหรือนายของเจ้าที่ดามัสกัส เขากำลังจะตายเพราะกระหายน้ำ เขาไม่ได้ดื่มนมหรือน้ำเลยแม้แต่นิดเดียวมาสามวันแล้ว พวกเจ้าจะให้น้ำเขาสักนิดได้ไหม? ถ้าพวกเจ้าระแวงว่าฉันจะร้องขอน้ำเพื่อตัวฉันเองโดยอ้างทารกผู้นี้ ฉันก็จะวางเขาไว้ตรงนี้ถ้าพวกเจ้าต้องการ แล้วมาเอาเขาไปให้น้ำดับกระหาย”
มีรายงานว่า คำพูดของอิมามฮุเซน(อ.) และภาพทารกน้อยไร้เดียงสาในมือของท่านที่กำลังกระหาย สร้างความสะเทือนใจ น่าเวทนา จนทำให้แม้แต่ทหารในกองทัพของศัตรูก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาได้ และต้องสาปแช่งยะสีด และอะบัยดิลละฮ์ บุตรของซิยาด เจ้าเมืองกูฟะฮ์ ที่เกณฑ์พวกเขาให้มายืนเป็นปฏิปักษ์กับกลุ่มชนผู้บริสุทธิ์เหล่านี้
อุมัร บุตรของสะอัด กลัวว่าทหารของเขาจะสงสารอิมามฮุเซน(อ.) จึงได้สั่งฮุรมุลา ผู้มีใจโหดเหี้ยมเหมือนสัตว์ป่าตอบสนองคำขอของฮุเซน(อ.) เจ้าโหดผู้นั้นยิงธนูดอกหนึ่งจากคันธนูของเขาทะลุผ่านแขนของอิมามไปปักอยู่ ที่ลำคอเล็กๆ ของทารกไร้เดียงสาผู้นั้น เลือดกระฉูดออกจากลำคอของเขาและกระเซ็นเปื้อนใบหน้าของอิมามฮุเซน(อ.) อะลี อัสฆัร สิ้นลมหายใจในอ้อมแขนของบิดาด้วยใจหน้าที่ยิ้มแย้ม
อิมามฮุเซน(อ.) เดินร้องไห้กลับเข้ามาในกระโจมโดยมีอะลี อัสฆัร อยู่ในอ้อมแขน ท่านหยุดลังเลอยู่ที่หน้าทางเข้าแล้วถอยหลังกลับ กลับเดินมาที่ประตู แล้วถอยหลังกลับอีก ท่านทำเช่นนั้นถึง 7 ครั้ง ราวกับท่านจะรวบรวมความเข้มแข็งที่จะเข้าไปพบหน้ามารดาของทารกน้อยผู้ถูก สังหารอย่างโหดเหี้ยม
รุบ้าบมองเห็นใบหน้า ของสามีที่เปื้อนในด้วยเลือดแล้วร้องถามออกมาว่า “พวกนั้นทำอะไรกับลูกชายของฉัน พวกมันให้เขาได้ดื่มน้ำสักหยดก่อนจะฆ่าเขาไหม?”
อิมามฮุเซน(อ.) กล่าวว่า “ฉันขอให้พวกมันให้น้ำกับเขา แต่พวกมันกลับดับความกระหายของเขาด้วยเลือด”
อิมามฮุเซน(อ.) ใช้ดาบขุดหลุมฝังบุตรชายของท่านในทะเลทรายนี้ด้วยตัวเอง หลังจากนั้นท่านเงยหน้าขึ้นแล้วกล่าวว่า “โอ้พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเกรียงไกร ขอทรงเป็นพยานว่าฉันได้ทำหน้าที่ของฉันจนถึงวาระสุดท้าย”
การสละพลีด้วยทารกน้อย ผู้นี้เพียงคนเดียวก็เป็นการเพียงพอแล้วที่จะทำให้หัวใจของมนุษย์ทุกคนสั่น สะเทือนไม่ใช่หรือ? การเชือดพลีทารกน้อยผู้นี้เพียงคนเดียวจะเรียกไม่ได้หรือว่ามันเป็นการเชือด พลีที่ยิ่งใหญ่กว่าการเชือดพลีของศาสดาอิบรอฮีม(อ.)?
อัลลอฮ์(ซ.บ.) พระองค์เดียวเท่านั้นที่รู้ว่า พระองค์ได้ประทานความอดทนและความเข้มแข็งให้กับอิมามฮุเซน(อ.) ในระดับใด เพื่อให้ทนทานกับโศกนาฏกรรมร้ายแรงที่ไม่อาจทนรับได้นี้ได้
Source : www.ezsoftech.com