“ความเป็นชาตินิยม”

186

ฉันได้กล่าวแก่ท่านอิมามอาลี (อ) ว่า “ขอให้ท่านแสดงทัศนะในเรื่องของความเป็นชาตินิยม คลั่งใคล้ในสิ่งหนึ่งสิ่งใด หรือการไม่ยอมรับความจริงทั้งๆ ที่มีหลักฐานปรากฏอย่างชัดเจน หมายถึงบางคน หรือบางกลุ่ม ซึ่งเขายืนหยัดสนับสนุนคนของเขา กลุ่มของเขา คนในครอบครัวเขา หรือพวกพ้องของเขาแบบปิดหูปิดตา ทั้งที่พวกเขาเหล่านั้น ที่เขากำลังสนับสนุนกำลังกระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และเชื่อในสิ่งที่ผิดอยู่ก็ตาม แต่เนื่องจากว่าผู้ที่เชื่อ และผู้ที่กำลังพูดคือคนของเขา กลุ่มของเขา เขาจำเป็นต้องสนับสนุน และให้ร้ายฝ่ายตรงข้ามว่าเป็นฝ่ายที่เชื่อผิด และกล่าวในสิ่งที่เป็นโมฆะ

ฉันจึงขอถามท่านอิมามอะลี (อ) ว่า “การแสดงความเป็นชาตินิยม การสนับสนุนเข้าข้างแบบคลั่งใคล้ ถูกต้องหรือไม่?”
ท่านอิมามอะลี (อ) ได้ตอบปฏิเสธการแสดงความเป็นชาตินิยม และการสนับสนุนเข้าข้างผู้หนึ่งผู้ใดแบบคลั่งใคล้ว่า “ในโลกนี้บุคคลแรกที่แสดงความเป็นชาตินิยม คือชัยฎอนมารร้าย”

ท่านอิมามอะลี (อ) ได้กล่าวต่อว่า “ความเป็นชาตินิยมของชัยฎอน คือการแสดงความมีเกียรติเหนือศาสดาอาดัม (อ) อันเนื่องมาจากการถูกสร้างของมัน จึงไม่ยอมกราบกรานต่อศาสดาอาดัม (อ) ดังนั้นชัยฎอนคือศัตรูของพระผู้เป็นเจ้า เป็นผู้แรกที่ได้แสดงความเป็นชาตินิยมออกมา และชัยฎอนคือหัวหน้าของผู้ที่มีความเป็นชาตินิยม และผู้มีความหยิ่งผยองทั้งหลาย”

ท่านอิมามอะลี (อ) ได้กล่าวต่อว่า “ด้วยเหตุนี้พระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) จะทรงลงโทษทัณฑ์บุคคลหลายจำพวก ด้วยหลายๆ เหตุผล อาธิเช่น อาหรับผู้ที่มีความเป็นชาตินิยมในความเป็นอาหรับของเขา”

ฉันได้ถามอิมามอะลี (อ) ต่อว่า “ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ได้สั่งห้ามการแสดงความเป็นชาตินิยมไว้บ้างหรือไม่?”
อิมามอะลี (อ) ได้ตอบว่า “ใช่แล้ว ศาสดามุฮัมมัด (ศ) ได้สั่งห้ามไว้ ซึ่งในครั้งหนึ่งท่าน (ศ) เคยมีวจะนะว่า บุคคลใดก็ตามที่เขาแสดงความเป็นชาตินิยมออกมา รากฐานแห่งความศรัทธาจะถูกตัดขาดจากคอของเขาในทันที”

และท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ยังได้กล่าวอีกว่า “บุคคลใดก็ตามที่เขาแสดงความเป็นชาตินิยมแบบคลั่งใคล้ แม้จำนวนเท่าเมล็ดเครัดดิล (เมล็ดพันธ์พืชชนิดหนึ่งสกุลกะหล่ำปลี) ในวันแห่งการตัดสินพระองค์จะทรงนำเขาไปรวมกับชาวอาหรับญาฮิลิยะฮ์ (อาหรับที่ป่าเถื่อน)”

ฉันได้ถามท่านอิมามอะลี (อ) ต่ออีกว่า “ทุกๆ รูปแบบของการแสดงความเป็นชาตินิยมเป็นสิ่งไม่อนุญาติอย่างนั้นหรือ? ประเภทของมันมีอะไรบ้าง?”
อิมามอะลี (อ) ได้ตอบว่า “ถ้าหากเจ้ามีความจำเป็นต้องแสดงความเป็นชาตินิยม ก็จงแสดงความเป็นชาตินิยมในการช่วยเหลือสิ่งที่เป็นสัจธรรม และช่วยเหลือผู้ขัดสนเถิด”

ฉันได้ถามอิมามอะลี (อ) ต่อว่า “รูปแบบของการแสดงความเป็นชาตินิยมที่ไม่ถูกตำหนิยังมีอีกหรือไม่?”
อิมามอะลี (อ) ได้ตอบว่า “ถ้าหากเจ้ามีความจำเป็นต้องแสดงความเป็นชาตินิยม ดังนั้นจงแสดงความเป็นชาตินิยมเกี่ยวกับคุณลักษณะที่ดีงาม และกิจการงานที่อยู่บนความถูกต้องเท่านั้น การแสดงความเป็นชาตินิยมเกี่ยวกับจริยธรรมที่ดีงาม อาธิเช่น การรักษาสิทธิของเพื่อนบ้าน การรักษาพันธสัญญาที่มีกับผู้อื่น การปฏิบัติตามในสิ่งที่ถูกต้อง ละทิ้งจากการยะโสโอหังและความเห็นแก่ตัว การบริจาคทาน ออกห่างจากการกดขี่ผู้อื่น ให้ถือว่าการหลั่งเลือดคือความบาป การมีความยุติธรรมต่อเพื่อนมนุษย์ การยับยั้งความโกรธ และออกห่างจากความชั่วร้ายทั้งปวงบนหน้าแผ่นดินนี้”

ดังนั้นสมควรอย่างยิ่งที่เราจะต้องชื่นชมผู้ที่ปฎิบัติในสิ่งทีดีงาม การแสดงความเป็นชาตินิยมและฝักใผ่ในอุดมการณ์ที่ถูกต้อง แต่ทว่าการแสดงความเป็นชาตินิยมในเรื่องราวที่ไม่ดีงาม นอกเหนือจากอุมดมการณ์ของอัลอิสลาม อาธิเช่นการคลั่งใคล้ฝักใฝ่ในอุดมการณ์ของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมิได้เป็นอุดมการณ์ของอิสลาม นั่นคือการกระทำความผิดอย่างชัดเจน

สังคมมุสลิมต้องยืนหยัดอยู่กับฝ่ายที่เป็นสัจธรรม ต้องเป็นฝ่ายที่ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง มาดแม้นว่าการยืนหยัดแสดงความเป็นชาตินิยมในเรื่องดังกล่าวมันจะขมขื่น และเกิดอันตรายกับตัวเอง หรือพวกพ้องก็ตาม ซึ่งพระองค์ทรงมีพระดำรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในบทอันนิสาอ์ โองการที่ 135 ว่า “ผู้ศรัทธาทั้งหลาย ! จงเป็นผู้ที่ดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม จงเป็นพยานเพื่ออัลลอฮ์ และแม้ว่าจะเป็นอันตรายแก่ตัวของพวกเจ้าเอง หรือผู้บังเกิดเกล้าทั้งสองและญาติที่ใกล้ชิดก็ตาม”

การแสดงความเป็นชาตินิยมแบบคลั่งใคล้แบบปิดหูปิดตา ไม่ยอมรับความเป็นจริง ทั้งๆ ที่มีหลักฐานอันชัดแจ้ง หัวดื้อ หัวรั้น เหล่านี้คือสิ่งที่ผิดพลาดมหันต์ จะนำมาซึ่งการเป็นผู้ปฎิเสธ และความป่าเถื่อน และขัดแย้งกับวัฒนธรรมที่แท้จริงของอัลอิสลามและกุรอาน

“ความเป็นชาตินิยม” นั้นมีความหมายทั้งทางบวก และทางลบ หากให้ความหมายทางบวกนั้นหมายถึง การยืนหยัดเนื่องจากฝักใฝ่ในอุดมการณ์หนึ่งอุดมการณ์ใดที่อยู่บนความถูกต้อง ส่วนในความหมายทางลบนั้นหมายถึง การไม่ยอมรับความจริง ทั้งๆ ที่มีหลักฐานอย่างชัดเจน

แปลเรียบเรียง เชคมาลีกี ภักดี