15 ชะอ์บาน วันประสูติอิมามมะฮ์ดี(อ.)

212

อิมามท่านที่ 12 มีนามว่า มุฮัมมัด บิน ฮะซัน อัล -มะฮ์ดี ท่านเป็นอิมามผู้ถูกสัญญาไว้ ท่านมักจะถูกเรียกด้วยตำแหน่งแห่ง “อิมามี อัสร์” (อิมามแห่ง “กาลเวลา”) และ “ซอฮิบัซ-ซะมาน” (จ้าวแห่งยุคสมัย) ท่านเป็นบุตรของอิมามที่ 11 คืออิมามฮะซัน อัสกะรีย์(อ.) และท่านหญิงนัรจิส คอตูน เจ้าหญิงแห่งเปอร์เซีย ท่านประสูติที่เมืองสะมัรรอ เมื่อวันที่ 15 ชะอ์บาน ฮ.ศ.256 หรือ ค.ศ.868 ชื่อของท่านเหมือนกับชื่อของท่านศาสดา(ศ.) ท่านได้รับการเลี้ยงดู ปกป้อง และศึกษาเรียนรู้จากบิดาของท่าน จนกระทั่งถึงปี ฮ.ศ.260 เมื่อบิดาของท่านเป็นชะฮีด ท่านได้ถูกซ่อนเร้นจากสาธารณชน และมีเพียงผู้ทรงเกียรติในหมู่ชีอะฮ์บางคนเท่านั้นที่สามารถพบท่านได้

หลังจากการพลีชีพของบิดาของท่าน ท่านก็ได้สืบต่อตำแหน่งอิหมาม และด้วยบัญชาจากพระผู้เป็นเจ้าท่านจึงเข้าสู่ภาวการณ์เร้นกาย (ฆอยบัต) หลังจากนั้นท่านจะปรากฏกายเฉพาะต่อผู้เป็นตัวแทนของท่านเท่านั้น และเฉพาะในกรณีพิเศษเท่านั้น

ท่านอิมาม(อ.) ได้เลือกตัวแทนพิเศษของท่านคราวละหนึ่งคน อุษมาน บิน สะอีด อุมารี สาวกคนหนึ่งของบิดาและปู่ของท่าน ผู้เป็นสหายที่เชื่อถือและไว้วางใจได้ของท่าน โดยผ่านตัวแทนของท่านนี้เองท่านอิมาม(อ.) จะตอบปัญหาข้อสงสัยของชีอะฮ์ของท่าน หลังจากอุษมาน บิน สะอีดแล้ว ก็คือมุฮัมมัด บิน อุษมาน อุมารี เป็นผู้ได้รับแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนของท่านอิมาม(อ.) ต่อมา หลังจากมุฮัมมัด บิน อุษมาน เสียชีวิต อบุล กอซิม ฮุเซน บิน รูฮ์ เนาบัคตี ก็ได้เป็นตัวแทนพิเศษ และหลังจากเขาเสียชีวิต อะลี บิน มุฮัมมัด ซิมมารี ก็ได้รับเลือกให้ทำหน้าที่นี้ต่อไป

ไม่กี่วันก่อนที่อะลี บิน มุฮัมมัด ซิมมารี จะเสียชีวิตในปี ฮ.ศ.329 ได้มีคำสั่งจากอิมาม(อ.) ที่ระบุว่า อะลี บิน มุฮัมมัด ซิมมารี จะเสียชีวิตภายในหกวัน ซึ่งต่อจากนี้ไปการทำหน้าที่ตัวแทนพิเศษของอิมามจะจบลง และการเร้นกายครั้งใหญ่ (ฆอยบัต กุบรอ) จะเริ่มต้นขึ้น และจะดำเนินไปจนกระทั่งถึงวันที่พระผู้เป็นเจ้าจะอนุมัติให้อิมาม(อ.) ปรากฏกาย

ด้วยเหตุนี้ การเร้นกายของอิมามมะฮ์ดี(อ.) จึงถูกแบ่งออกเป็นสองช่วง ช่วงแรกคือการเร้นกายช่วงสั้นๆ (ฆอยบัต ซุกรอ) ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ ฮ.ศ.260 ถึง ฮ.ศ.329 เป็นเวลาเจ็ดสิบปี ช่วงที่สองคือการเร้นกายครั้งใหญ่ ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ ฮ.ศ.329 และจะดำเนินต่อไปนานตราบเท่าที่อัลลอฮฺ(ซ.บ.) ทรงประสงค์

ในรายงานบันทึกคำพูด(ฮะดีษ) ของท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ.) ที่ทุกคนยอมรับในสายรายงาน กล่าวว่า “หากแม้นว่าชีวิตของโลกนี้จะมีเหลืออยู่เพียงหนึ่งวัน อัลลอฮ์ก็จะทรงยืดเวลาวันนั้นให้ยาวนานจนกระทั่งพระองค์ได้ส่งบุรุษผู้หนึ่งจากประชาชาติของฉันและจากครอบครัวของฉันมายังโลกนี้ ชื่อของเขาจะเหมือนกับชื่อของฉัน เขาจะมาสถาปนาความเท่าเทียมและความยุติธรรมบนหน้าแผ่นดิน เสมือนกับที่มันเคยถูกทำให้เต็มไปด้วยการกดขี่และเผด็จการ”

Source : www.tebyan.net