อิมามซัยนุลอาบิดีน (อ) เป็นอิมามท่านที่ 4 เป็นบุตรชายของท่านอิมามฮูเซน (อ) หลานของท่านอิมามอะลี (อ) มารดาของท่านมีนามว่า “ชะฮ์บานู” ฉายานามที่โด่งดังของท่านคือ “ซัยนุลอาบิดีน” และ “ซัจญาด”
อิมามซัยนุลอาบิดีน (อ) ประสูติในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 38 ท่านใช้ชีวิตในวัยเด็กของท่านที่นครมะดีนะฮ์ และท่านอิมาม (อ) ได้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ของท่านอยู่ในช่วงการปกครองของอิอะลี (อ) สองปี
นับเป็นเวลาสิบปีที่ท่านได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ ในยุคการเป็นอิมามของลุงของท่าน คือท่านอิมามฮะซันมุจญตะบา (อ) และท่านอิมามซัจญาด (อ) ได้ใช้ชีวิตในยุคการเป็นอิมามของท่านอิมามฮูเซน (อ) ผู้เป็นบิดาของท่านเองอีกสิบปี ซึ่งเป็นช่วงเรืองอำนาจของมุอาวิยะฮ์
ในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 61 ณ. ผืนแผ่นดินกัรบะลาอ์ ท่านอิมามซัจญาด (อ) ก็เป็นผู้หนึ่งที่อยู่ร่วมในเหตุการณ์วันนั้น และภายหลังจากการเป็นชะฮาดัต (เสียชีวิตในหนทางของพระองค์) ของบิดาของท่าน อิมามฮูเซน (อ) ท่านได้ร่วมเดินทางไปกับกลุ่มแชลยศึกสงคราม จากกัรบะลาอ์ ยังเมืองกูฟะฮ์ และเมืองชาม ประเทศซีเรียในปัจจุบัน
การเดินทางในครั้งนั้นท่านได้ทำหน้าที่เป็นผู้ดูแล และเป็นที่พึ่งพิงของบรรดาเชลย ที่ตกอยู่ในความโศรกเศร้า และความทุกข์ระทม ในการเดินทางครั้งนั้นท่านได้กล่าวคำปราศรัยอย่างดุเดือด เปิดโปงความชั่วร้ายของยะซีด และการปกครองของยะซีดอย่างมากมาย
และหลังจากที่ท่านอิมาม (อ) เดินทางกลับสู่นครมะดีนะฮ์ ท่านได้ใช้ชีวิตอยู่ในนครมะดีนะฮ์ จนกระทั่งท่านเป็นชะฮาดัต (เสียชีวิตในหนทางของพระองค์) ในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 94 บางรายงานบันทึกว่า ในปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 95 และศพของท่านถูกฝังอยู่ ณ สุสานบะกีอ์ ใกล้ๆ กับหลุมฝังศพของท่านอิมามฮะซัน (อ) ผู้เป็นลุงของท่าน
ตามรายงานที่เราทราบกันดีว่า ในกัรบะลาอ์ท่านอิมามซัจญาด (อ) ป่วยหนัก และไม่ได้เป็นผู้หนึ่งที่ได้จับดาบเพื่อสู้รบกับศัตรูของพระเจ้าในวันนั้น แต่นั่นคือเจตนารมณ์แห่งพระผู้เป็นเจ้า ไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่า อาการป่วยในระยะสั้นๆ ของอิมาม (อ) ณ วันนั้นในเหตุการณ์วันอาชูรอ เป็นความกรุณาของพระผู้เป็นเจ้าอย่างแท้จริง
เพราะเหตุผลของอาการป่วยในวันนั้น ภาระหน้าที่การต่อสู้ของท่านอิมาม (อ) ได้ถูกยกเว้น และชีวิตอันจำเริญของท่านได้ถูกปกป้องจากภัยอันตราย และทำให้สายธารแห่งอิมามของมนุษยชาติได้คงดำรงอยู่ต่อไป
อิมามซัจญาด (อ) คือผู้ประกาศสาส์นแห่งการต่อสู้ของท่านอิมามฮูเซน (อ) และบรรดาสหายผู้กล้าของอิมามฮูเซน (อ) ซึ่งเป็นภาระกิจที่สำคัญยิ่ง มาดแม้นว่าไร้ซึ่งผู้เผยแพร่สาส์นแห่งการต่อสู้ และการเป็นชะฮีดของวีรชนในกัรบะลาอ์ วันนี้เราคงกลายเป็นมุสลิมอีกหลายๆ คนที่ไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในกัรบะลาอ์เลย
ดังนั้นภาระกิจของท่านอิมามซัจญาด (อ) จึงมีความสำคัญไม่น้อยกว่าภาระกิจของอิมามฮูเซน (อ) และบรรดาสหายผู้กล้าของอิมามฮูเซน (อ) ในวันอาชูรอเลยแม้แต่นิดเดียว
ภาระกิจอันยิ่งใหญ่ของท่านอิมามซัจญาด (อ) คือภาระกิจการต่อสู้และการรับใช้ด้านสังคม และการทำงานด้านวัฒนธรรม ซึ่งมีแบบแผนการทำงานที่สำคัญที่สุดสามารถสรุปได้ดังนี้
1-การดำรงไว้ซึ่งการรำลึกถึงวีรกรรมของวันอาชูรอ
การรำลึกถึงวีรกรรมวันอาชูรอ ได้สร้างปมคำถามเกิดขึ้นในความคิดของประชาชนส่วนใหญ่เกี่ยวกับความชอบธรรมในการปกครองของราชวงศ์อุมาวีย์ในช่วงเวลานั้น ท่านอิมามได้ใช้รูปแบบการเผยแพร่ การต่อสู้โดยการใช้การปลุกระดมประชาชนด้วยการรำลึกวีรกรรมวันอาชูรอ ด้วยสื่อแห่งน้ำตา และความเจ็บปวด
ไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่าวิธีการต่อสู้นี้ของท่านอิมาม (อ) ได้ก่อให้เกิดผลทางด้านการเมืองอย่างสูง การกล่าวรำลึกอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับโศรกนาฏกรรมกัรบะลาอ์ ทำให้การกดขี่ การก่ออาชญากรรมของระบอบการปกครองของราชวงศ์อุมาวีย์ ไม่อาจถูกลืมเลือนไปจากหน้าประวัติศาสตร์อิสลามได้
ทุกครั้งเมื่อท่านอิมาม (อ) จะดื่มน้ำ เมื่อสายตาของท่านมองไปที่น้ำท่านจะหลั่งน้ำตาออกมา เมื่อมีผู้อื่นเห็นและได้ถามท่านถึงสาเหตุการร้องไห้ ท่านก็จะตอบว่า “จะไม่ให้ฉันร้องไห้ได้อย่างไรกัน ในขณะที่พวกยะซีด ได้ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตตามท้องทะเลทราย และสัตว์ได้ดื่มกินน้ำ แต่ทว่ายะซีดได้ปิดกั้นน้ำต่อบิดาของฉัน และสังหารบิดาของฉันในสภาพของผู้ที่หิวกระหายอย่างรุนแรง”
ท่านอิมามซัจญาด (อ) กล่าวอีกว่า “เมื่อใดก็ตามที่ฉันนึกถึงการถูกสังหารของบุตรแห่งฟาติมะฮ์ (อ) ฉันก็จะร้องไห้” ท่านอิมามจะกล่าวรำลึกเรื่องราวเหล่านี้ตามสถานที่ต่างๆ ในต่างวาระต่างโอกาสทันที เมื่อท่านมีโอกาส
2-การตักเตือนและการชี้นำแนวทางแก่ประชาชาติ
ในหลายโอกาสที่ท่านได้มีโอกาสในการพูดตักเตือน ท่านก็จะพยายามพูดคุยถึงเรื่องราวแห่งอัลอิสลามที่แท้จริง ตามแบบอย่างของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ท่านมักจะสอดแทรกคำสอนต่างๆ ที่เป็นวิชาการของอิสลามที่แท้จริง
3-การสั่งสอนอิสลามในรูปแบบของการดุอาอ์ และคำวิงวอน
หนึ่งในรูปแบบของการต่อสู้ การเผยแพร่ของท่านอาม (อ) คือการอรรถาธิบายวิชาการด้านอิสลามในรูปแบบของดุอาอ์ และคำวิงวอน ซึ่งมีบทบาทที่สำคัญยิ่งต่อการสร้างและพัฒนาจิตวิญญาณของมนุษยชาติ “ศอฮีฟะฮ์ ซัจญาดียะฮ์” จึงถูกนำเสนอโดยท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (อ)
ศอฮีฟะฮ์ ซัจญาดียะฮ์ ไม่ได้เป็นเพียงเนื้อหาที่รวบรวมคำวิงวอนภาวนาและการขอพร ต่อพระเจ้า หรือการวิงวอนของสิ่งพึงประสงค์จากพระองค์เพียงเท่านั้น แต่ทว่ามันคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งวิชาการ และหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม ยังมีเรื่องราวแห่งความศรัทธา วัฒนธรรม การเมือง สังคม กฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติ และบทบัญญัติอันพึงปฏิบัติ ซึ่งล้วนถูกซ่อนอยู่ในกรอบของดุอาอ์