3 ชะอฺบาน วันประสูติอิมามฮุเซน(อ.)

181

อิมามฮุเซน(อ.) อิมามท่านที่สาม ประสูติเมื่อวันที่ 3 เดือนชะอฺบาน ปี ฮ.ศ.4 ที่เมืองมะดีนะฮ์ ในวันที่ท่านประสูติ ศาสดามุฮัมมัด(ศ.) ได้มีวจนะไว้ว่า ศาสนาอิสลามจะอยู่รอดได้โดยหลานชายคนที่สองของท่านที่ชื่อฮุเซน(อ.) ผู้นี้

ท่านประสูติในค่ำคืนที่สามของเดือนชะอฺบาน บิดาของท่านคืออิมามอะลี(อ.) ผู้เป็นแบบอย่างที่ดีที่สุดของการมีเมตตาต่อมิตรสหาย และกล้าหาญที่สุดต่อศัตรูของอิสลาม ส่วนมารดาของท่านคือท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ.) บุตรสาวของท่านศาสดา(ศ.) ผู้มีความรู้อย่างกว้างขวาง และได้รับสืบทอดคุณสมบัติทั้งหลายมาจากบิดาของนาง ศาสดามุฮัมมัด (ศ)

อิมามฮุเซน(อ.) จึงเป็นผู้มีความรู้ มีเมตตา มีความกล้าหาญ และอุทิศตนเพื่อศาสนา เช่นเดียวกับท่านตา บิดา มารดา และพี่ชายของท่าน

เมื่อข่าวดีเรื่องการประสูติของท่านได้ทราบไปถึงท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ.) ท่านได้มาที่บ้านของบุตรสาวของท่าน และรับทารกแรกเกิดผู้นั้นไว้ในอ้อมแขน ท่านได้กล่าวอะซาน และอีกอมะห์ ที่หูขวาและซ้ายของทารกน้อย ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ได้ตั้งชื่อว่า อัล-ฮุเซน ตามพระบัญชาของอัลลอฮฺ (ซ.บ)

อิมามฮะซัน(อ.) และอิมามฮุเซน(อ.) บุตรชายทั้งสองของอิมามอะลี บิน อะลีฏอลิบ(อ.) และท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ.) ได้รับความเคารพนับถือและยกย่องในฐานะเป็น “หัวหน้าของชายหนุ่มในสวรรค์” ตามที่ท่านศาสดา(ศ.) ได้มีวจนะไว้

ในสมัยของท่านอิมามฮูเซน (อ) ยะซีด บุตรของมุอาวียะห์ได้ขึ้นครองราชย์ เขาเป็นคนอยุติธรรม และละเมิดศาสนา เขามีชื่อเสียงว่าเป็นคนร้ายกาจและมีพฤติกรรมที่โหดร้าย ทันทีที่มีอำนาจ เขาเริ่มฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ และกฎหมายอิสลาม นอกจากนั้น เขายังอ้างตัวว่าเป็นกาหลิบ เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งของท่านศาสดาแห่งอิสลาม เพื่อเป็นการยืนยันสถานะนี้ของเขา เขาจึงต้องการบังคับให้อิมามฮุเซน(อ.) กล่าวสัตยาบันแก่เขา

ถ้าหากคนถือดีอย่างยะซีดได้เป็นกาหลิบ ประชาชนจะตกอยู่ในอันตราย และจะนำความเชื่อและประเพณีดั้งเดิมที่ไม่เป็นอิสลามมาใช้

ภาระรับผิดชอบเพื่อปกป้องอิสลาม และสิทธิมนุษยชนจึงตกอยู่บนบ่าของอิมามฮุเซน(อ.)

ในเวลานั้นประชาชนชาวกูฟะฮ์ไม่ยอมรับยะซีดเป็นกาหลิบ พวกเขาจึงเชื้อเชิญอิมามฮุเซน(อ.) ให้มายังกูฟะฮ์เพื่อเป็นผู้นำของพวกเขา ท่านอิมามจึงออกเดินทางไปยังกูฟะฮ์พร้อมด้วยญาติพี่น้องที่เป็นชายหนุ่ม สตรี และเด็ก และมิตรแท้ที่จริงใจอีกจำนวนหนึ่ง

ระหว่างทาง ท่านได้เผชิญหน้ากับกองทัพพร้อมอาวุธของยะซีด เพื่อเป็นการรักษาศาสนาของท่านตาผู้บริสุทธิ์(ศ.) ของท่าน อิมามฮุเซน(อ.) จึงตั้งมั่นที่จะเผชิญหน้ากับกองทัพมารเหล่านี้ในสนามรบ ท่านและมิตรสหายของท่านต่อสู้ด้วยความองอาจ และพวกเขาส่วนใหญ่ได้พลีชีพ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่กัรบะลา ดินแดนทะเลทรายในประเทศอิรัก เมื่อวันที่ 10 มุฮัรรอม ฮ.ศ.61

วันที่ 10 มุฮัรรอม ถูกเรียกว่าเป็นวันอาชูรอ วันนั้น มุสลิมทั่วโลกจะรำลึกถึงการต่อสู้ที่ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนได้ของอิมามฮุเซน(อ.) และมิตรสหายของท่าน ที่ทำการต่อสู้กับทรราชย์ พวกเขาไว้อาลัยต่อผู้พลีชีพเหล่านี้ ที่สละชีวิตของตนเพื่อรักษาไว้ซึ่งอิสลาม

การพลีอุทิศของอิมามฮุเซน(อ.) เพื่อรักษาไว้ซึ่งอิสลามนั้น ไม่มีสิ่งใดเสมอเหมือนในหน้าประวัติศาสตร์ของโลก ท่านกล่าวไว้ว่า

“ในทัศนะของฉัน การได้สละชีวิตลงในหนทางของอัลลอฮฺถือเป็นเกียรติยิ่ง และการยื่นมือออกไปร่วมมือกับผู้กดขี่นั้น ไม่ใช่อื่นใดนอกจากความอัปยศ”

Source : www.tebyan.net