อิมามอะบุลฮะซัน อะลียุนนะกี อัลฮาดีย์ (อ) เป็นผู้นำท่านที่ 10 จากวงศ์วานอะฮ์ลุลบัยต์ของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) ของบรรดาชีอะฮ์
ท่านถือกำเนิดในวันที่ 15 ซุลฮิจญะฮ์ ฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 212 ณ สถานที่แห่งหนึ่งที่อยู่รอบๆ นครมะดีนะฮ์ ชื่อว่า “ซ็อรยา”
บิดาของท่านคืออิมามญะวาด (อ) อิมามท่านที่ 9 จากวงศ์วานอะฮ์ลุลบัยต์ ของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ) และมารดาของท่านคือ ซะมานะฮ์
ฉายานามที่โด่งดังที่สุดของอิมามท่านที่ 10 นี้คือ “นะกีย์” และ “ฮาดีย์”
อิมามฮาดีย์ (อ) ได้เข้าดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำประชาชาติมุสลิมในปีที่ 220 ฮิจเราะฮ์ศักราช ภายหลังจากการเป็นชะฮีด (เสียชีวิตในหนทางของพระเจ้า) ของบิดาท่าน ซึ่งในเวลานั้นท่านอิมามฮาดีย์ (อ) มีอายุแค่ 8 ขวบ ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งของท่านรวม 33 ปี
อิมามฮาดีย์ (อ) ถูกทำชะฮาดัต (ถูกสังหารในหนทางแห่งพระองค์) ในฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 254 ณ เมืองซะมัรรออ์ ในวัย 41 ปีเศษ
บรรดาผู้ปกครองในยุคสมัยการดำรงตำแหน่งผู้นำของอิมามฮาดีย์ (อ)
ในช่วงเวลาการดำรงแหน่งผู้นำประชาชาติมุสลิมของท่านอิมามฮาดีย์ (อ) ซึ่งอยู่ในช่วงรุ่งเรืองทางอำนาจการเมืองของบะนีอับบาส ซึ่งในระยะเวลา 33 ปีของการดำรงตำแหน่งของท่านอิมาม (อ) นั้น มีผู้ปกครองจากบะนีอับบาสวนเวียนกันขึ้นปกครองทั้งหมด 6 คน คือ มุอ์ตะซิม, วาซิก, มุตะวักกิล, มุนตะซิร, มุชตะอีน, มุอ์ตัซ
ท่านอิมามฮาดีย์ (อ) ถูกทำชะฮาดัตโดยการลอบวางยาพิษ โดยคำสั่งของผู้ปกครองคนสุดท้ายนามว่า มุอ์ตัซ สถานฝังร่างของท่านอิมามฮาดีย์ (อ) คือเมืองซะมัรรออ์ ประเทศอิรัคในปัจจุบัน
การโยกย้ายอิมามฮาดีย์ (อ) จากนครมะดีนะฮ์ สู่นครซามัรรออ์
ในช่วงการรุ่งเรืองอำนาจทางด้านการเมืองของบะนีอับบาส ผู้ปกครองมุตะวักกิล คือผู้ปกครองของบะนีอับบาสที่อยู่ร่วมสมัยกับอิมามฮาดีย์มากกว่าผู้ปกครองคนอื่นๆ มากที่สุด มุตะวักกิล ได้แสดงความป่าเถื่อนอยากมากมายต่อบะนีฮาชิม โดยเฉพาะกับวงศ์วานอะฮ์ลุลบัยต์ (อ) และชีอะฮ์ของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ)
มุตะวักกิล มีความคับแค้นใจและเป็นปฏิปักษ์ต่อวงศ์วานอะฮ์ลุลบัยต์ (อ) อย่างที่สุด และถ้าหากเขาได้ทราบว่าบุคคลใดก็ตามที่มีความรักต่อวงศ์วานอะฮ์ลุลบัยต์ (อ) เขาก็จะยึดทรัพย์สินและสังหารคนๆ นั้นในทันที คล้ายๆ กับมุสลิมกลุ่มหนึ่งในปัจจุบัน ที่ประกาศตัวเป็นปฏิปักษ์กับชีอะฮ์ของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ) อย่างแข็งขัน ไม่ทราบว่าเขาคับแค้นใจเรื่องอันใดนัก การโจมตี ให้ร้ายป้ายสีต่างๆ นานา ทั้งบนเวที และในโลกอินเตอร์เน็ต ต่อชีอะฮ์ของอะฮ์ลุลบัยต์ (อ) ซึ่งมีให้เห็นมากมายในยุคปัจจุบัน
มุตะวักกิลใช้รูปแบบของบรรดาบรรพชนที่ชั่วร้ายของเขา เขาใช้ความพยายามทุกวิถีทางที่จักกระทำได้ เพื่อให้ตัวเอง และอำนาจทางดุนยาของตัวเองปลอดภัย เขาต้องการที่จะควบคุมอิมามฮาดีย์ (อ) ให้ได้ จึงจำเป็นต้องย้ายที่พำนักของอิมามฮาดีย์ (อ) จากนครมะดีนะฮ์ มายังนครซามัรรออ์ เพราะหากอิมามฮาดีย์ (อ) ยังคงอยู่ในนครมะดีนะฮ์ จะเป็นการยากที่จะได้รับทราบการเคลื่อนไหวต่างๆ ของท่าน และแน่นอนหากเป็นเช่นนั้นจะก่อให้เกิดอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อระบบการปกครองที่กดขี่ของเขาได้
มุตะวักกิลจึงได้ทำหนังสือเชื้อเชิญท่านอิมามฮาดีย์ (อ) ไปยังนครซามัรรออ์ อิมามจำใจต้องยอมรับคำเชิญดังกล่าว เนื่องจากหากท่านปฏิเสธคำเชิญดังกล่าว จะสร้างความชอบธรรม และทำให้มุตะวักกิลมีข้ออ้างมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสร้างความยากลำบากอีกมากมายต่ออิมาม เพราะท่านอิมามได้กล่าวประโยคหนึ่งหลังจากที่ท่านเดินทางถึงนครซามัรรออ์ว่า “พวกเขาได้บังคับให้ฉันมาจากนครมะดีนะฮ์สู่นครซามัรรออ์”
ตามคำสั่งของมุตะวักกิล วันที่ท่านอิมามเดินทางเข้าสู่นครซามัรรออ์ มุตะวักกิลได้อ้างว่าขณะนี้สถานที่พำนักของท่านอิมามยังมีความพร้อม เขาจึงนำท่านอิมามเข้าไปพำนักในสถานที่หนึ่ง ที่ถูกรู้จักในนาม คอนัล ซ่ออะลีก คือสถานอาศัยของคนขอทานและผู้ขัดสน
อันที่จริงแล้วจุดประสงค์จากการกระทำเช่นนั้นของมุตะวักกิล ก็เพื่อแสดงความเหยียดหยามทำลายเกียรติยศของอิมามฮาดีย์ (อ) และเป็นเกมส์การเมืองอย่างหนึ่ง ในมิติลึกๆ มุตะวักกิลมีความหวาดกลัว จากอิทธิพลทางด้านจิตวิญญาณของอิมามฮาดีย์ (อ) ที่มีต่อประชาชนต่างหาก
ในนครซามัรรออ์ ท่านอิมามฮาดีย์ (อ) ดูเหมือนว่าจะมีการใช้ชีวิตที่มีอิสระภาพ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อิมามฮาดีย์ (อ) เปรียบเสมือนใช้ชีวิตอยู่ในคุก เนื่องจากอิมามต้องอยู่ในสภาพที่ถูกจับตามองความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา รวมถึงผู้ที่ไปมาหาสู่กับท่านอิมามก็ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น
อิมามฮาดีย์ (อ) สร้างเครือข่ายตัวแทน
ถึงแม้ว่าอิมามฮาดีย์ (อ) จะต้องอยู่ในสภาพที่เต็มไปด้วยเงื่อนไขต่างๆ ทำให้ท่านต้องคิดค้นวิธีการใหม่ๆ เพื่อการจัดการสร้างเครือข่ายตัวแทนกับบรรดาชีอะฮ์ เพื่อให้บรรดาชีอะฮ์ได้มีลู่ทางในการสอบถามปัญหาศาสนา หรือเรื่องราวการบ้านการเมือง อาศัยผ่านสื่อกับตัวแทนเหล่านั้นของท่านได้ เครือข่าวยดังกล่าวประสพความสำเร็จในการทำงานอย่างมาก ทำให้ภารกิจของอิมามฮาดีย์ (อ) รุดหน้าไปมาก
จนในที่สุดผู้ปกครองของบะนีอับบาสที่มีนามว่า มุอ์ตัซ อดรนทนไม่ไหว ต่อภาระกิจอันรุดหน้าของท่านอิมามฮาดีย์ (อ) จึงได้มีคำสั่งลอบสังหารท่านอิมามในทันที และต่อมาไม่นานท่านอิมามฮาดีย์ (อ) ก็ถูกลอบวางยาพิษ และได้หวนกลับคืนสู่พระองค์ในที่สุด เมื่อวันที่ 3 เดือนรอญับ ปีฮิจเราะฮ์ศักราช 254 ในวัน 41 ปีเศษ ณ นครซามัรรออ์