ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ.) กล่าวว่า
“ใครก็ตามที่ทำร้ายฟาฏิมะฮฺ (ทางร่างกายหรือจิตใจ) ทำร้ายฉันด้วย และใครก็ตามที่ทำร้ายฉัน เขาได้ทำร้ายอัลลอฮฺ และใครก็ตามที่ทำร้ายอัลลอฮฺ เท่ากับเป็นผู้ปฏิเสธ โอ้ฟาฏิมะฮฺ ถ้าเจ้าโกรธ ก็จะทำให้อัลลอฮฺโกรธ และถ้าเจ้าพอใจ มันก็จะทำให้อัลลออฺพึงพอพระทัยด้วยเช่นกัน”
นับตั้งแต่วันที่บิดาของท่านจากไป ท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ.) ต้องใช้ชีวิตอย่างขมขื่นและจดจ่อรอคอยแต่ความตาย วิธีเดียวที่ทำให้ท่านหญิงสามารถทนกับชีวิตที่เหลืออยู่ได้คือการหันพึ่งบิดาของท่านและได้อยู่ใกล้ชิดกับท่านเมื่อความศรัทธาและจิตวิญญาณของท่านหญิงท่วมท้นไปด้วยข้อร้องเรียนและความเจ็บปวด
ทั้งที่รู้แล้วว่าท่านหญิงจะได้ไปพบกับบิดาของท่านในเวลาไม่นาน แต่ระยะเวลานั้นมันได้สร้างความเจ็บปวด ระทมทุกข์ และขมขื่นให้แก่ท่านหญิงจนยากที่จะทนทานได้ เวลาเก้าสิบห้าวันมันช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าสำหรับท่านหญิง
และแล้ว วันนั้นก็มาถึง มันตรงกับวันจันทร์ที่ 3 เดือนญะมาดิล ษานี ปีฮิจเราะฮฺที่ 11 ซึ่งเป็นปีที่บิดาของท่านหญิงได้จากไป ท่านหญิงจุมพิตลูกๆ ของท่านทีละคน คืออิมามฮะซัน(อ.) วัย 7 ขวบ อิมามฮุเซน(อ.) 6 ขวบ ท่านหญิงซัยนับ(อ.) 5 ขวบ และท่านหญิงอุมมุลกุลซุม 3 ขวบ
และเมื่อถึงเวลาที่ท่านต้องเอ่ยคำลาต่ออิมามอะลี(อ.) ท่านหญิงนอนอยู่บนเตียงที่จัดตั้งไว้กลางห้อง หันหน้าสู่กะอฺบะฮฺ และรอคอย
ท่านหญิงได้ขอให้อิมามอะลี(อ.) ฝังท่านในเวลากลางคืนเพื่อไม่ให้ใครรู้จักสุสานของท่าน อิมามอะลี(อ.) ทำตามคำขอของท่านหญิง(อ.) จนกระทั่งปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าสุสานของท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ.) อยู่ที่ไหน ในบ้านของท่านหญิงเอง หรือว่าในสุสานอัล-บะกีอฺ แต่ที่แน่ชัดก็คือความเจ็บปวดของอิมามอะลี(อ.) ในค่ำคืนนี้ เมื่อท่านอยู่เคียงข้างสุสานของท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ.)
มะดีนะฮฺหลับใหลในยามค่ำคืน ชาวมุสลิมทุกคนกำลังนอนหลับ ท่ามกลางความเงียบสงัดของยามค่ำคืน มีเพียงเสียงกระซิบเบาๆ ของอิมามอะลี(อ.) ท่านเหลือตัวคนเดียวทั้งในเมืองมะดีนะฮฺและในบ้านของท่านที่ปราศจากศาสดา(ศ.) และท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ.)
สายลมยามดึกได้พัดพาถ้อยคำที่ออกมาจากจิตวิญญาณของอิมามอะลี(อ.) จากสุสานของท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ(อ.) ไปยังบ้านของท่านศาสดา(ศ.)
“แด่ท่าน จากฉันและบุตรสาวของท่าน ผู้ซึ่งได้นอนลงเคียงข้างกับท่านและไปสมทบกับท่านเร็วเช่นนี้ ขอความสันติสุขจงประสบแด่ท่าน โอ้ ศาสนทูตแห่งอัลลอฮฺ ความอดทนและความสามารถของฉันอ่อนแรงลงเพราะชะตากรรมของผู้เป็นที่รักยิ่งของท่าน โอ้ศาสนทูตแห่งอัลลอฮฺ แต่ฉันจะหาความอดทนได้อย่างไรในความโชคร้ายนี้และการสูญเสียท่าน?”
“ฉันได้วางท่านลงในสุสาน แต่ท่านยังคงอยู่ในหัวใจของฉัน เราทั้งหมดมาจากอัลลอฮฺ และยังอัลลอฮฺที่เราจะต้องคืนกลับ แต่ความเศร้าโศกของฉันจะคงอยู่ตลอดไป และฉันไม่อาจหลับสนิทได้ในยามค่ำคืนจนกว่าอัลลอฮฺจะนำฉันไปยังสถานที่ซึ่งท่านอยู่ในตอนนี้”
“บัดนี้ บุตรสาวของท่านจะได้บอกเล่าให้ท่านรู้ว่าประชาชาติของท่านได้ร่วมกันทำอย่างไรกับนาง และแย่งชิงสิทธิของนางไป โปรดขอให้ให้นางบอกท่านทุกอย่างที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเพียงไม่นานนับแต่การจากไปของท่าน และประชาชนยังไม่ลืมท่านเลย”
“ขอความสันติสุขจงมีแด่ท่านทั้งสอง เป็นคำอวยพรจากชายคนหนึ่งผู้ซึ่งไม่มีทั้งความโกรธหรือความเสียใจ”
Source : tebyan.net