อิมามฮะซัน อัสกะรีย์(อ.) กับเจ้าหญิงแห่งโรม

175

เรื่องราวการแต่งงานของอิมามฮะซัน อัสกะรีย์(อ.) กับเจ้าหญิงนัรจิรฺ คอตูน หลานสาวของจักรพรรดิ์แห่งโรม รายงานโดยมัจญ์ลิซี ในหนังสือบิฮารุล อันวารฺ

อิมามอะลี อัน-นะกีย์(อ.) บิดาของท่านได้มอบหมายเรื่องสำคัญนี้ให้แก่สหายของท่าน คือ บาชิรฺ อิบนุ สุลัยมาน โดยท่านได้เขียนจดหมายเป็นภาษาโรมัน และปิดผนึกมันด้วยตราประทับชั้นสูงของท่าน ท่านได้ใส่จดหมายนี้ในถุงเงินสีแดง พร้อมกับเงินจำนวน 220 ดินารฺ และได้สั่งแก่สหายของท่านว่า

“จงนำจดหมายนี้ไปยังแบกแดด และไปที่ท่าเรือริมแม่น้ำไทกริสเพื่อรอเรือจากซีเรียมาขึ้นฝั่งที่นั่น จงมองหาเจ้าของเรือที่ชื่ออัมรฺ เฝ้าสังเกตดูเมื่อเขานำเชลยสาวคนหนึ่งออกมาแสดงตัว นางจะอยู่ในชุดผ้าไหม และมีผ้าคลุมปิดบังตัวไม่ให้ถูกมองหรือถูกซื้อ ท่านจะได้ยินนางร้องออกมาเป็นภาษาโรมันว่า ‘ถึงแม้ท่านจะมีทรัพย์สมบัติและเกียรติยศมากกว่าโซโลมอนบุตรของเดวิด(ศาสดาสุลัยมาน บุตรของศาสดาดาวูด) ฉันก็ไม่มีวันสนใจท่านเพราะฉะนั้น อย่าเสียเวลามาเปลืองเงินโดยเปล่าประโยชน์ด้วยการซื้อฉันเลย’ และเมื่อมีลูกค้าคนหนึ่งเข้ามาหานาง นางจะกล่าวว่า ‘ขอสาปแช่งคนที่เปิดผ้าคลุมหน้าฉัน’เจ้าของนางจะทักท้วงว่า ‘ฉันจะทำอย่างไรได้ ฉันถูกบังคับให้ขายท่าน?’ แล้วท่านจะได้ยินเชลยสาวคนนั้นตอบว่า ‘แล้วทำไมต้องรีบร้อนขนาดนี้ ให้ฉันได้เลือกคนซื้อของฉันเอง แล้วหัวใจของฉันจะได้ยอมรับเขาด้วยความมั่นใจและสำนึกคุณ’

เมื่อนั้นแหละท่านจึงต้องเข้าไป โอ้ บาชิรฺ และบอกแก่อัมรฺ คนขายว่าท่านมีจดหมายฉบับหนึ่งของผู้สูงศักดิ์คนหนึ่งที่เขียนเป็นภาษาโรมัน และจดหมายบับนี้แสดงถึงความเมตตา ความชื่นชม และความโอบอ้อมอารี ท่านต้องมอบจดหมายฉบับนี้ให้เชลยสาวคนนั้นอ่าน แล้วนางอาจจะตกลงใจยอมถูกซื้อโดยผู้ชายที่ได้ฝากจดหมายนี้มากับท่าน

บะชีรฺรายงานต่อไปว่า “เมื่อฉันได้ทำตามนั้น และหญิงสาวคนนั้นได้รับจดหมายนี้แล้ว นางก็เริ่มร้องไห้ขณะที่อ่านจดหมาย หลังจากนั้นนางได้กล่าวแก่อัมรฺว่า ‘ขายฉันให้แก่ผู้เขียนจดหมายฉบับนี้ เพราะถ้าหากท่านปฏิเสธ ข้าจะไม่มีความสุขอย่างแน่นอน และท่านจะไม่สามารถขายฉันให้กับใครได้อีก’ ฉันจึงได้เจรจาตกลงราคากับอัมรฺ จนกระทั่งได้ราคา 220 ดินารฺ ตามจำนวนที่นายของฉันได้มอบให้แก่ฉันมา เมื่อฉันจ่ายเงินและรับตัวเชลยสาวมา นางได้มากับฉันโดยไม่ขัดขืน แท้จริงแล้ว นางยิ้มและดูมีความสุขมากด้วย นางตื่นเต้นยินดีและหยิบจดหมายของอิมามอะลี อัน-นะกีย์(อ.) ขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วจูบ แล้วนำไปแนบดวงตา แล้วจึงเก็บมันกลับไปไว้ในกระเป๋า ฉันประหลาดใจที่นางแสดงอาการเช่นนั้นทั้งที่เธอยังไม่รู้จักเจ้าของจดหมายเลย นางตอบว่า ‘ขอให้ลูกหลานแห่งศาสดาได้ปัดเป่าความสงสัยของท่านเถิด’ หลังจากนั้นนางจึงเล่าเรื่องของนางให้ฉันฟัง

“ฉันคือเจ้าหญิงองค์หนึ่ง เป็นหลานของจักรพรรดิแห่งโรม มารดาของฉันคือลูกหลานผู้สืบสกุลของไซมอน ตัวแทนของเจซัส(ศาสดาอีซาหรือพระเยซู)”

“คืนหนึ่งฉันได้เห็นในความฝันว่า เจซัสอยู่ร่วมกับสาวกจำนวนหนึ่งของท่าน ณ พระราชวังหรูหราที่มีบัลลังก์ตั้งอยู่ และมีแสงเปล่งออกมาและได้เห็น มุฮัมมัด(ศ.) และอะลี(อ.) ผู้สืบทอดตำแหน่งของท่าน พร้อมด้วยลูกหลานผู้สืบสายตระกูลของท่านเข้ามายังพระราชวังแห่งนั้น เจซัสได้ออกมาต้อนรับมุฮัมมัดผู้ซึ่งกล่าวว่า ‘โอ้ วิญญาณ ณ อัลลอฮฺ ฉันมาเพื่อสู่ขอบุตรสาวแห่งไซมอนตัวแทนของท่านให้แก่บุตรชายของฉัน ฮะซัน อัสกะรีย์’ เจซัส(อ.) ได้มองไปยังไซมอนและกล่าวแก่เขาว่า‘เกียรติยศและความสูงส่งได้มาท่านแล้ว ด้วยโอกาสที่จะได้สมรสกับครอบครัวของมุฮัมมัด’

“ฉันตื่นขึ้นและไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้บิดาหรือพี่ชายฟังเพราะกลัวพวกเขาจะฆ่าฉันแต่ในขณะที่ฉันเก็บความลับนี้ไว้ ฉันก็เกิดความรักต่อฮะซัน อัสกะรีย์ขึ้นในหัวใจของฉัน”

“หลายวันหลังจากนั้น ฉันได้เห็นภาพนิมิตอีก เป็นภาพของฟาฏิมะฮฺ บุตรสาวของท่านศาสดา และแมรี่(มัรยัม) มารดาของเจซัส มาหาฉันและบอกว่า ฮะซัน อัสกะรีย์ จะไม่มาหาฉันจนกว่าฉันจะเป็นมุสลิมด้วยการปฏิญาณตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮฺ และมุฮัมมัดเป็นศาสนทูตท่านสุดท้ายของอัลลออฺ ฉันได้ยอมรับ และหลังจากนั้นฉันก็ได้เห็นฮะซัน อัสกะรีย์ ในนิมิตของฉัน”

“ฮะซัน อัสกะรีย์ บอกฉันว่า บิดาของฉันวางแผนที่จะส่งกองทัพไปต่อสู้กับมุสลิม ให้ฉันปลอมตัวไปพร้อมกับนางกำนัลของฉันเข้าไปร่วมในกองทัพนั้น ฉันทำตามนั้น และไม่นานเลย กองทัพมุสลิมก็จับกุมตัวเรา และผลก็ออกมาอย่างที่ท่านเห็นนี่เอง”

บาชิรฺเล่าต่อไปว่า เมื่อพวกเขามาถึงสะมัรรอ อิมามอะลี อัน-นะกีย์(อ.) ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับด้วยความยินดี ท่านอิมาม(อ.) ถามนางว่า ท่านควรจะมอบเงินหนึ่งหมื่นดินารฺให้แก่นางหรือว่าควรจะบอกข่าวดีแก่นางสักอย่างหนึ่งดี เมื่อนางเลือกอย่างหลัง ท่านจึงบอกแก่นางว่า ท่านได้มอบนางให้แก่บุตรชายของท่าน คือฮะซัน อัสกะรีย์(อ.) ตามที่นางได้เห็นในฝัน และว่านางจะได้เป็นมารดาของชายผู้หนึ่ง ที่จะมาสร้างความยุติธรรมให้ปกครองไปทั่วแผ่นดิน และต่อมานางได้ถูกมอบหมายให้อยู่ในความดูแลของท่านฮากีมะฮฺ น้องสาวของอิมามอะลี อัน-นะกีย์(อ.)

ไม่กี่วันหลังจากนั้น ก็ได้มีพิธีแต่งงานระหว่างอิมามฮะซัน อัสกะรีย์(อ.) กับนัรฺจิส คอตูน หลานสาวของจักรพรรดิ์แห่งโรม

Source : www.tebyan.net